สุรินทร์/ศรีสะเกษ - พายุฝนกระหน่ำเมืองช้าง โค่นต้นมะขามอายุกว่า 70 ปี 2 ต้นล้มทับบ้านประชาชนพัง 2 หลัง สายไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านขาด เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือ ขณะศรีสะเกษฝนตกต่อเนื่องส่งผล “อ่างห้วยตามาย” น้ำเพิ่มสูง เกษตรกรเฮมีน้ำทำนา มีปลาให้ชาวประมงจับ หญ้าขึ้นเขียวขจีวัวควายได้กินอิ่ม
วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง พัดถล่ม จ.สุรินทร์หลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ้านแก หมู่ 9 ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พายุฝนได้พัดต้นมะขามขนาดใหญ่ 2 ต้น อายุกว่า 70 ปี ริมถนนในหมู่บ้านโค่นล้มทับสายไฟฟ้าขาด และทับบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง
ประกอบด้วยบ้านของ นางดวง หิปะนัติ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 25/3 หมู่ 9 ต.หนองขวาว ขณะเกิดเหตุนางดวง หิปะนัติ ไม่ได้อยู่บ้านเพราะไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ส่วนอีก 1 หลังอยู่ใกล้กัน เป็นของนางเตือ เพ็งเพราะ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 9 ต.หนองขวาว ช่วงเกิดเหตุนางเตือได้นอนอยู่กับหลานสาวอีกคน เมื่อได้ยินเสียงต้นไม้ล้มลงทับบ้านจึงตื่นขึ้นมาพาหลานหลบออกมาจากบ้าน โชคยังดีที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ นอกจากบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ อบต.หนองขวาวได้เข้าตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและให้การช่วยเหลือชาวบ้านผู้เดือดร้อนต่อไป
ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับที่บริเวณห้วยตามาย ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น และดินที่เคยแตกระแหงเป็นบริเวณกว้างกลับกลายเป็นทุ่งต้นหญ้าและวัชพืชขึ้นเขียวขจี
ส่งผลดีต่อโค กระบือ กว่า 500 ตัวที่เกษตรกรนำมาเลี้ยงบริเวณห้วยตามาย เนื่องจากหลายพื้นที่ได้เริ่มทำนากันแล้ว ซึ่งเป็นภาพของความอุดมสมบูรณ์ให้ผู้ที่สัญจรผ่านได้พบเห็นแทนความแห้งแล้งเช่นที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพประมงที่เคยได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยตามายแห้งขอด ได้พากันนำเอาเรือออกมาหาจับปลาเพื่อนำไปขายสร้างรายได้ให้เลี้ยงครอบครัว ส่วนต้นบัวนับล้านต้นที่เคยแห้งเหี่ยวตายกลับออกดอกบานสะพรั่งอีกครั้งเช่นกัน
