กาฬสินธุ์ - กำนันตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งความจับ “ศร สินชัย” นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังเจ้าของบทเพลงผัวเก่า พร้อมคนสนิท ข้อหาบุกรุกขโมยเวที และข่มขู่ฆ่าหลานชายแฝดสาม ด้าน “ศร สินชัย” ยันไม่ได้บุกรุก ขโมยเวที และไม่ได้ข่มขู่ พร้อมแจ้งความกลับข้อหาฉ้อโกง
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายเกรียงไกร โม้แพง กำนันตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อนุภาพ ภูชำนิ ร้อยเวรสอบสวน สภ.นากุง ให้ดำเนินคดีต่อ ศร สินชัย หรือนายพรชัย สรงศรี นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง เจ้าของผลงานเพลงผัวเก่า และนายวีระยุทธ วงษ์ดา คนสนิทและผู้ดูเวทีให้แก่ ศร สินชัย ในข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์ และข่มขู่ หลังจาก ศร สินชัย พร้อมทีมงานเข้าไปขนย้ายเวทีการแสดงไปจากบ้านพัก ซึ่งเป็นที่ทำการกำนันตำบลบัวบาน เลขที่ 11 ม.21 บ้านโคกก่องใต้ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
นายเกรียงไกร โม้แพง กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตน และนายอรมกัญญาณัฐ ไชยาณรงค์ หรือนายหมู ไชยาณรงค์ ซึ่งเป็นลูกเขย ได้ตกลงร่วมลงทุนจัดเวทีการแสดงคอนเสิร์ตให้แก่ ศร สินชัย นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง หลังจาก ศร สินชัย ได้โพสต์เชิญชวนให้เข้าร่วมลงทุนด้วย จากนั้นได้เจราจาตกลงกันจะร่วมเปิดเวทีคอนเสิร์ต ตน และลูกเขยจะทำหน้าที่เตรียมเวทีการแสดง หากมีการจ้างเล่นคอนเสิร์ตตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ซึ่งศร สินชัย บอกว่า มีเวทีเก่าอยู่ที่บ้านใน อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ไม่ต้องซื้อใหม่ จากนั้นจึงไปขนเวทีทั้งหมดมาซ่อมแซมปรับปรุง และอุปกรณ์มาเสริม ซึ่งลงทุนไปกว่า 100,000 บาท พร้อมรับงานแสดง
ต่อมา เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ศร สินชัย และนายวีระยุทธ วงษ์ดา คนสนิท และผู้ดูเวทีให้แก่ ศร สินชัย พร้อมด้วยคนงานประมาณ 7-8 คน ขับรถบรรทุกเข้ามาที่บ้านพักของตน ซึ่งเป็นที่ทำการกำนันตำบลบัวบาน เลขที่ 11 ม.21 บ้านโคกก่องใต้ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยบอกว่าจะมาขนเวทีกลับไปซ้อมการแสดงคอนเสิร์ตที่บ้านใน อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยได้พูดคุยกับลูกเขยแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ติดใจอะไร กระทั่งขนย้ายเสร็จ และได้สอบถามไปยังลูกเขย ก็ไม่ทราบเรื่องว่า ศร สินชัย พาคนงานมาขนเวที
จึงสอบถามไปอีก และได้รับคำตอบชัดเจนมาว่า ขนเวทีกลับไปจริง เพราะไม่ให้ร่วมลงทุนเปิดคอนเสิร์ตด้วยแล้ว ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจึงถือเป็นการหลอกลวง และยังเป็นบุกรุกเข้าไปในบ้านและลักทรัพย์ด้วย เพราะเวที และอุปกรณ์ต่างๆ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นขอ งศร สินชัยแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ตน และลูกเขยเป็นคนซื้อมาต่อเติม และปรับปรุงจนกลับมาใช้งานได้
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า หลังจากตกลงกับลูกเขยแล้วว่าน่าจะถูกหลอก จึงเตรียมเข้าแจ้งความต่อตำรวจ แต่กลับได้รับโทรศัพท์จาก ศร สินชัย ซึ่งโทร.มาลักษณะข่มขู่อีกด้วย โดยบอกว่า “ยังรักและเคารพพ่อกำนันเหมือนเดิมนะ ลูกผมโตแล้ว ทางบริษัทคุ้มครองผมอยู่ แต่ลูกนายหมู ไชยาณรงค์ ที่เป็นแฝด 3 คน นั้นยังเล็กอยู่นะ จะคิดจะทำอะไรก็ระวังให้ดี และให้เลิกแจ้งความซะ” ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนมองว่าเป็นการโกหก ไม่ให้เกียรติ อีกทั้งยังข่มขู่กัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีต่อ ศร สินชัย และนายวีระยุทธ วงษ์ดา ในข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์ และข่มขู่ และยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด
ด้าน ร.ต.ท.อนุภาพ ภูชำนิ ร้อยเวรสอบสวน สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นนายเกรียงไกร ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ ศร สินชัย และคนสนิท ในข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์ และข่มขู่ ซึ่งทางตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว จากนั้นจะเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ ศร สินชัย นักร้องลูกทุ่งหมอลำ กล่าวว่า ผมเป็นนักร้อง เป็นคนของประชาชน ความจริงไม่อยากมีเรื่องกับใคร แต่สำหรับเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากตนจะทำวงหมอลำเรื่องต่อกลอนทำนองขอนแก่น คณะ “ศร สินชัย” โดยเปิดรับสมัครนักร้อง พระเอก และคนงานทุกแผนกทางเฟซบุ๊ก ต่อมา มีคนชื่อหมู โทรศัพท์เข้ามา บอกว่าชื่อหมู จากวังน้ำเขียว ทราบชื่อภายหลังว่า นายอรมกัญญาณัฐ ไชยาณรงค์ ซึ่งเป็นลูกเขยของนายเกรียงไกร กำนันตำบลบัวบาน โดยสอบถามการทำวงหมอลำ พร้อมขอเข้ามาร่วมทำวงด้วย
จากนั้นพูดคุยตกลงกันว่า ให้พี่หมูทำระบบเครื่องเสียง และไฟ ซึ่งจะได้ค่าร่วมการแสดงครั้งละ 5 หมื่นบาท แต่ไฟ และเครื่องเสียงต้องทำเหมือนที่ผมต้องการ ต่อมา พี่หมูโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องเวที และขอใช้เวที ซึ่งตนก็ให้ยืมเวทีเก่า และนำไปปรับปรุงซ่อมแซมเอาที่บ้านกำนันเกรียงไกร
ศร สินชัย กล่าวต่อว่า ขณะกำลังซ่อมแซมเวที ตนเกรงว่าจะทำไม่ได้จึงขอร้องให้ช่างชื่อ ยุทธนา ไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ค่าแรง อย่างไรก็ตาม ต่อมา ได้พูดคุยกันกับพี่หมูว่า จะทำสำนักงานใหม่ เพราะที่บ้านกำนันเนื้อที่แคบ โดยพี่หมู อาสาเป็นคนหาสถานที่ให้ กระทั่งหาพื้นที่ได้ประมาณ 10 ไร่เศษ โดยบอกว่าเจ้าของที่ต้องการขายในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งตนก็ยังไม่ตกลงและตัดสินใจซื้อ แต่วันถัดมาพี่หมู โทรศัพท์มาบอกว่า ได้จ่ายค่ามัดจำที่ดินไปแล้ว 6 แสนบาท แต่ตนก็ไม่สนใจอะไร กระทั่งต่อมา พี่หมู โทร.มาทวงเงินค่ามัดจำ ตนจึงไปขอขยายวงเงินกู้จากธนาคาร แต่ธนาคารให้กู้ได้ 2 แสนบาท จากนั้นได้โอนเงินไปให้พี่หมูก่อน 1 แสนบาท
กระทั่งล่าสุด ตนได้ลงพื้นที่เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินที่ต้องการขาย ทำให้ทราบว่า พี่หมูเพิ่งจะนำเงินมามัดจำเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2559 เพียง 5 หมื่นบาท และที่ดิน 10 ไร่เศษก็จะขายเพียง 1.3 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนมองว่าเป็นการโกหกหลอกลวงกัน คงจะร่วมงานกันไม่ได้ จึงพาทีมงานไปขนเวทีที่บ้านกำนันเกรียงไกร ออกมา ซึ่งไม่ได้บุกรุก ไม่ได้ลักทรัพย์ เพราะเวทีเป็นของตน ส่วนคนงานจะมีการหยิบเหล็กเวทีของกำนันเกรียงไกร มานั้นก็ไม่ทราบ เพราะเหล็กมันเยอะ แต่ถ้าหากหยิบมาผิดก็สามารถมาเอาคืนได้
ส่วนเรื่องกรณีกำนันระบุว่า ตนโทรศัพท์ข่มขู่หลานชายแฝด 3 นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะผมเป็นนักร้อง ไม่ใช่นักเลง และมีหลักฐานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ไปจริง แต่เป็นการคุยเรื่องเหล็กเวที หากหยิบไปผิดก็มาเอา และบอกว่าต่างคนมีลูกมีเมียแล้ว ลูกผมโตแล้ว ลูกพี่หมูยังเล็กอยู่ อย่าให้เรื่องบานปลายเลย ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนก็ได้เข้าแจ้งความฉ้อโกงไว้แล้วที่ สภ.นากุง เช่นกัน