ศรีสะเกษ - พ่อค้าแม่ค้า และชาวกัมพูชาจำนวนมากทะลักผ่าน “ด่านช่องสะงำ” ชายแดนด้าน อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ เข้ามาหาซื้อสินค้าที่ “ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ” สุดคึกคัก หลังปรับปรุงใหม่เพิ่มความสะดวก และสร้างความมั่นใจ ขณะแม่ค้าไทยวอนขอให้ช่วยจัดที่บังแดด เหตุอากาศร้อนทำให้การค้าขายไม่สะดวก และสินค้าเสียหาย
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ด้านการท่องเที่ยว และประธานเครือข่ายการท่องเที่ยงโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ และคณะได้เดินทางไปดูบรรยากาศการท่องเที่ยว และการค้าที่ด่านชายแดนแห่งนี้
โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทำการเปิดประตูด่านช่องสะงำ บรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากได้เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ และรถยนต์พากันแห่ทะลักเข้ามาเพื่อไปหาซื้อสินค้าที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ตั้งอยู่ห่างจากด่านช่องสะงำ เข้าไปในเขตแดนไทยประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยว่าที่ พ.ต.ต.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองมาดูแลตรวจสอบเอกสารอย่างเข้มงวด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ได้ทำการตรวจใบอนุญาตข้ามแดนพิเศษที่ออกให้แก่ชาวกัมพูชาทุกคนที่เข้ามาหาซื้อสินค้าเพื่อเป็นการควบคุมรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวกัมพูชาอย่างเต็มที่
ส่วนที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำสินค้าต่างๆ ทั้งเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ทุกชนิดเข้ามาวางขายให้แก่ชาวกัมพูชาที่พากันมาเข้ามาหาซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษด้านการท่องเที่ยว และประธานเครือข่ายการท่องเที่ยงโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และฝ่ายกัมพูชา ทำการปรับปรุงบริเวณด่านช่องสะงำ โดยมีการพัฒนาที่ทำการด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ทำการด่านศุลกากร ทั้งของไทย และกัมพูชา เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และเกิดความสวยงาม เอื้ออำนวยต่อการให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ผ่านเข้าออกประเทศไทยที่ด่านแห่งนี้
หลังจากที่ทำการปรับปรุงเสร็จแล้วได้มีการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้สภาพบริเวณด่านช่องสะงำ มีการพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมมาก และมีประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชาผ่านเข้าออกอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ตาม ต้องการเสนอแนะให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาปรับปรุง คือ ที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ควรจัดให้มีที่บังแดดให้แก่พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่มาขายสินค้าด้วย เนื่องจากได้รับการเรียกร้องจากพ่อค้าแม่ค้าว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้นาน และสินค้าจำพวกผักสด ผลไม้สดถูกแดดร้อนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นางวิภาดา ศรีมงคล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 13 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ แม่ค้าขายผลไม้รายใหญ่ กล่าวว่า นำผลไม้มาขายทุกครั้งที่เปิดตลาดนัดเมืองใหม่ช่องสะงำ แต่สภาพอากาศร้อนมากทำให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะการขายสินค้าพืชผักผลไม้สด รวมทั้งสินค้าต่างๆ เมื่อโดนแดดร้อนเผาสินค้าจะเสียหาย และไม่สามารถขายสินค้าได้นาน ขณะนี้มีแม่ค้ากว่า 10 ราย ที่ไม่สามารถทนสภาพอากาศร้อน และทำให้สินค้าเสียหายได้ต่างพากันหยุดขายสินค้าไปแล้ว ทำให้ตลาดไม่คึกคักเท่าที่ควร
จึงขอเรียกร้องให้ทางราชการได้ช่วยทำหลังคากันแดดให้ด้วย โดยพวกตนพร้อมที่จะจ่ายค่าบำรุงสถานที่ตามแต่จะกำหนดไว้ ไม่หวังที่จะยึดครองที่ดินของทางราชการ เพียงแค่ต้องการขายสินค้าเท่านั้น และสามารถมาขายสินค้าได้ทุกวัน เนื่องจากขณะนี้ชาวกัมพูชามั่นใจในความปลอดภัยทำให้พากันแห่เข้ามาหาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากทุกครั้งที่มีการเปิดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าที่เมืองใหม่ช่องสะงำแห่งนี้ นางวิภาดา กล่าวในตอนท้าย