น่าน - พม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดึง “ละอ่อนน่าน” ร่วมต้านภัยค้ามนุษย์ ทำละครเวทีเดินสายเปิดม่านโชว์ ปลุกความตระหนักรู้ ทั้งการค้าประเวณีเด็กนักเรียน นักศึกษา และแรงงานต่างด้าว
นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการ “ล่ะอ่อนน่านร่วมใจ ต้านภัยการค้ามนุษย์” ที่ นายสถาพร ทองแดง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน ในฐานะเลขาศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายและการช่วยเหลือ จัดขึ้นเป็นกิจกรรมเนื่องในเดือนรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2559
โดยมีตัวแทนนักเรียน และเยาวชนจากสถานศึกษา 10 แห่ง กว่า 120 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ อาคารอเนกประสงค์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.น่าน สุดสัปดาห์นี้ และมีการถ่ายทอดสดทั้งภาพ และเสียงเพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงภัยการค้ามนุษย์ด้วย
ซึ่งในงาน สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดน่าน หนึ่งในเครือข่ายเฝ้าระวังฯ จัดทำละครเวทีสะท้อนปัญหารูปแบบการค้ามนุษย์ และวิธีการแจ้งเหตุ จากนั้นเป็นการบรรยายให้ความรู้ด้านกฎหมายและวิธีการแจ้งเหตุ โดยอัยการมณเฑียร อยู่ทิม ทั้งการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดน่าน การรับแจ้งเบาะแส และเข้าดำเนินการจับกุม โดย พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบก.ภ.น่าน
นายสถาพร ทองแดง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน กล่าวว่า จังหวัดน่าน ยังปรากฏสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การค้ามนุษย์ ได้แก่ การแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา การลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าว และปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ และปัญหาต่างๆ ของสังคม เช่น อาชญากรรม คนเร่ร่อน เด็กไร้สถานะ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ถูกดำเนินคดีด้านการค้ามนุษย์ เนื่องจากไม่มีข้อมูล หรือหลักฐานชัดเจน
ทางศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้เพื่อสร้างเครือข่าย และการมีส่วนร่วมเฝ้าระวัง ช่วยเหลือคุ้มครอง ป้องกันและปราบปราม และให้ความรู้ด้านการคุ้มครองสิทธิแก่กลุ่มเป้าหมาย
โดยเฉพาะการนำละครเวทีที่สื่อสารด้วยเด็ก มาใช้เป็นช่องทางสร้างความตระหนักรู้ที่สัญจรจัดมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ที่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา และโรงเรียนสา อ.เวียงสา ซึ่งได้รับความสนใจจากเด็กนักเรียน และเยาวชนเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความตระหนักรู้ถึงภัยสังคม และการป้องกันตนเองและคนรอบข้างไม่ให้ตกเป็นผู้เสียหายถูกกระทำ รวมทั้งการแจ้งเหตุเพื่อช่วยเหลือสังคมด้วย