นครพนม - วัดธาตุพนม ประกาศจัดระเบียบการจัดเก็บของมีค่าที่มีญาติโยมผู้ศรัทธานำมาถวาย พร้อมงดอนุญาตเข้าชมภายในองค์ธาตุพนมถาวร ขณะเดียวกันมอบเจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีแกะรอยมือมืดฉกพานทองคำ ก่อนส่งคืน
วันนี้ (17 มิ.ย.) พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม มอบหมายให้พระศรีสุทธิเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครพนม ดำเนินการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการวัด และผู้นำชุมชน ทั้งนี้เพื่อดำเนินการจัดระเบียบสิ่งของมีค่าภายในวัดพระธาตุพนมซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม ตามความเชื่อเป็นการเสริมบุญบารมี ภายหลังเกิดความวุ่นวายกรณีหลวงปู่ภูพาน วัดโนนสวรรค์ (ภูดินแดง) บ้านโนนสวรรค์ ต.พังข้าง อ.เมือง จ.สกลนคร นำพานทองคำลงยาน้ำหนักทองคำ 42 บาท เข้าไปถวายไว้ภายในองค์พระธาตุพนม เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แต่ภายหลังได้เข้าไปนมัสการภายในองค์พระธาตุพนมแต่ไม่พบ จึงเรียกร้องให้ทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารตรวจสอบติดตาม จากนั้นไม่นาน มีมือดีนำมาส่งคืนไว้ในวัดแบบปริศนา โดยในส่วนของการส่งพานทองคำคืนเจ้าของนั้นจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางวัดได้มีมติงดให้ญาตโยมหรือบุคคลภายนอกเข้าชมภายในองค์ธาตุพนมแบบถาวร เพื่อป้องกันปัญหาทรัพย์สินมีค่าสูญหาย และเป็นการเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้จะได้มีการจัดระเบียบทรัพย์สินมีค่าภายในใหม่ เพื่อบันทึกเป็นหลักฐาน และเคลื่อนย้ายไปเก็บในที่เหมาะสม อีกทั้งประกาศแจ้งไปยังพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาเกี่ยวกับการนำสิ่งของมีค่ามาถวายต่อองค์พระธาตุพนมจะต้องผ่านการตรวจสอบขึ้นทะเบียนจากวัดเท่านั้น และจะต้องเป็นสิ่งของที่เหมาะสม ซึ่งวัดจะไม่รับฝากสิ่งของมีค่ามาเก็บไว้ภายใน หรือนำมาเก็บรักษาเพื่อการปลุกเสกทุกกรณี
พระศรีสุทธิเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในฐานะเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครพนม กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่วัดพระธาตุพนมจะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวด เนื่องจากที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน บุคคลสำคัญเข้าไปนมัสการภายในใกล้ชิด ส่วนใหญ่จะมีการนำทรัพย์สินมีค่า สร้อย แหวน เงิน ทอง วัตถุโบราณ เข้าไปถวายจำนวนมาก ตามความเชื่อความศรัทธา จึงไม่มีการลงทะเบียน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะต้องจัดระเบียบ งดไม่ให้มีการนำสิ่งของมีค่าเข้าไปถวายภายในอีกเด็ดขาด หรือหากต้องการนำมาถวายจะนำไปเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสม ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการ และไม่สามารถจะขอคืนได้เพราะถือเป็นการถวายขาด
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ที่นำพานทองคำลงยาออกไปจากองค์ธาตุพนมนั้น ได้มอบหมายให้ทางตำรวจตรวจสอบติดตาม เก็บหลักฐานเพื่อติดตามหาผู้กระทำผิดต่อไป เพราะถือว่าการนำออกไปจากวัดพระธาตุพนมโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่วนหนึ่งจะต้องมีการหารือตรวจสอบภายใน เพราะเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมีคนในวัดรู้เห็น จะต้องหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำซ้อนอีก