นครพนม - นายอำเภอธาตุพนมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงข่าวลือพานทองคำของพระชื่อดังเมืองสกลฯ ถวายฝากไว้ในธาตุพนมล่องหน แต่เชื่อหากถวายฝากไว้จริงหายยากเพราะการเข้าถึงองค์ธาตุพนมไม่ง่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ จ.นครพนม ภายหลังได้มีกระแสข่าวกรณีพระชื่อดัง หลวงปู่ภูพาน วัดโนนสวรรค์ (ภูดินแดง) บ้านโนนสวรรค์ ต.พังข้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านสังคมสื่อออนไลน์เพื่อเรียกร้องให้ทางวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบ
โดยระบุว่า มีพานทองคำลงยา น้ำหนักทองคำประมาณ 42 บาท ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่เคยนำไปใช้ในพิธีต้อนรับพระราชอาคันตุกะของราชวงศ์ไทย ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ได้สูญหายไป หลังจากได้นำเข้าไปถวายเก็บรักษาไว้ภายในองค์พระธาตุพนมเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้าไปสักการบูชา แต่ไม่พบพานทองคำที่นำเข้าไปเก็บรักษาไว้ พร้อมประสานไปยังทางวัดแต่ยังไม่มีผู้ใดให้คำตอบได้ จึงออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ
ล่าสุด นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภายหลังทราบข่าวได้ประสานงานไปยังทางวัด รวมถึงตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อจะได้มีการประชุมหารือตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยยังมั่นใจว่าทรัพย์สินสิ่งของภายในองค์พระธาตุพนมจะไม่หายไปไหนรวมถึงพานทองคำตามที่เป็นข่าว
ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่า ปกติในการนำทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเงินทอง สร้อยทองคำ และทรัพย์สินมีค่ามากมาย เป็นเรื่องของความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาจึงนำมาถวาย และนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ภายในองค์พระธาตุพนม ที่มีทั้งหมด 5 ชั้น ที่ใช้บรรจุเก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งของมีค่า ในชั้นที่ 1-3 ส่วนชั้นที่ 4 ที่ 5 ได้บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกขององค์พระธาตุพนมไว้ภายใน
แต่ในกรณีที่พุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาจะนำมาถวายองค์พระธาตุเพื่อสร้างบุญกุศล บารมี เป็นความเชื่อ จะไม่มีการบันทึกหรือลงทะเบียนเป็นหลักฐาน หากใครศรัทธาก็สามารถนำมาวางเก็บไว้ ทำให้ยากในการตรวจสอบ หรือยืนยันได้ว่าหายไปไหน แต่อาจจะมีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งในช่วงการบูรณะ ที่จะต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียด
สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ยืนยันว่าใครที่จะเข้าไปสักการะภายในจะต้องมีการขออนุญาตจากทางวัดให้พิจารณาอนุญาต และมีเจ้าหน้าที่นำพาเข้าไปสักการบูชา เชื่อมั่นว่ายากที่จะนำของมีค่าออกมาได้ ที่สำคัญเชื่อมั่นว่าไม่มีใครกล้าที่จะขโมยทรัพย์สินออกมาแน่นอน เพราะทุกคนเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และกลัวบาปบุญคุณโทษ ซึ่งไม่เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้ และภายในมีทรัพย์สินมากมายหลายรายการที่มีประชาชนนำมาถวายตามความเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอจะได้ประสานกับทางวัดพระธาตุพนม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งด่วน เบื้องต้นทางวัดได้ขอประชุมหารือตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเป็นนายอำเภอจะได้หารือในการเพิ่มมาตรการดูแลเข้มงวดมากขึ้นในการดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมจะวิงวอนให้ประชาชน หรือสังคมสื่อออนไลน์รอการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือรอข้อมูลที่ชัดเจนก่อนจะแชร์หรือแสดงความคิดเห็นในทางที่เสื่อมเสีย เพราะจะส่งผลต่อความเคารพศรัทธาของประชาชน ขอให้รอการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน และจะมีการประสานงานไปยังพระที่เปิดเผยข้อมูลให้ได้ความกระจ่างโดยเร็ว