ชาวนาสรรพยาแห่กู้เงิน ธ.ก.ส.ใช้ปลูกต้นหอมสร้างรายได้ระหว่างรอน้ำทำนา

ชัยนาท - ชาวนาอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ขอกู้เงิน ธ.ก.ส.ใช้ปลูกต้นหอมสร้างรายได้ระหว่างรอน้ำทำนา

วันนี้ (16 มิ.ย.) ชาวนา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กว่า 20 ราย ปรับเปลี่ยนการผลิตหลังเข้าสู่ฤดูทำนาปีแล้วแต่ยังไม่สามารถลงมือปลูกข้าวได้ เนื่องจากปริมาณน้ำยังมีไม่เพียงพอ จึงได้รวมกลุ่มกันขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้เป็นทุนในการปรับเปลี่ยนผืนนาร้างยกร่องเป็นแปลงปลูกต้นหอม พืชอายุสั้นเพื่อสร้างรายได้ระหว่างรอน้ำทำนา

นายปรีชา พวงน้อยปภา ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.จังหวัดชัยนาท ได้สนองนโยบายรัฐบาลโดยการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนการผลิตให้เกษตรกรหันไปเพาะปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย โดยในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา ธ.ก.ส.สาขาสรรพยา ได้สนับสนุนสินเชื่อจำนวนเงิน 1,000,000 บาท ให้แก่กลุ่มเกษตรกรบ้านนมโฑ ต.เขาแก้ว อ.สรรพยา จำนวน 15 ราย เป็นทุนในการปลูกต้นหอม หรือหอมแบ่ง จำนวน 20 ไร่ แทนการปลูกข้าว โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ใช้เวลาปลูก 45 วัน สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ซึ่งการปลูกหอมแบ่งของกลุ่มเกษตรกรบ้านนมโฑ ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้กว่า 60,000 บาทต่อไร่

ขณะที่กลุ่มเกษตรกรบ้านโพ ม.2 ต.ตลุก อ.สรรพยา ก็ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อ จำนวน 200,000 บาท เป็นทุนในการปรับเปลี่ยนนาร้าง จำนวน 6 ไร่ ให้เป็นแปลงปลูกต้นหอมเช่นกัน ระหว่างรอคอยให้มีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าวนาปี

นางสมหวัง อนุวัฒน์วิมล อายุ 57 ปี ชาวนาหมู่ที่ 2 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา ตนได้หยุดปลูกข้าวนาปรังเนื่องจากไม่มีน้ำ โดยปล่อยนาทิ้งร้างไว้ไม่ได้เพาะปลูกพืชฤดูแล้งใดๆ ทั้งสิ้น จนมาถึงตอนนี้แม้เข้าสู่ฤดูฝนแล้วแต่ในพื้นที่ยังมีฝนตกไม่มากพอ และชลประทานก็ยังไม่ส่งน้ำให้ปลูกข้าว จึงได้คิดหาทางเพาะปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อยกว่าข้าว และขายได้ราคาดี ซึ่งจากการเห็นชาวนาใน ต.เขาแก้ว อ.สรรพยา ที่ได้ทดลองปลูกต้นหอมในช่วงหน้าแล้งแล้วขายได้ราคาดี จึงคิดปลูกบ้าง ทั้งที่ไม่มีความรู้ในเรื่องการปลูกต้นหอมมาก่อน แต่ก็ยอมเสี่ยงทดลองปลูกเพราะไม่สามารถรอคอยให้ฝนตก หรือรอให้ชลประทานส่งน้ำมาให้ปลูกข้าวได้อีกต่อไป

ตนจึงตัดสินใจชวนเพื่อนชาวนารวมกลุ่มกัน 6 คน ไปขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส.สาขาสรรพยา จำนวน 200,000 บาท มาเป็นทุนปลูกต้นหอมร่วมกัน เพราะใช้น้ำน้อย และปลูกเพียง 45 วัน ก็เก็บขายได้กิโลกรัมละ 70 บาท ขณะนี้ได้เริ่มทดลองปลูกก่อน จำนวน 2 ไร่ อีกประมาณ 30 วัน จะเก็บขายได้ คาดว่าจะได้ผลผลิตประมาณ 1,500 กิโลกรัม/ไร่ ขายได้เป็นเงินประมาณ 210,000 บาท แบ่งกัน 6 คน ไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน และเก็บเป็นทุนไว้ปลูกข้าวต่อไป