ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 บุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติเช่าบ้านในเชียงใหม่ ตั้งออฟฟิศหลอกเหยื่อจากมาเลเซียให้โอนเงินเข้าบัญชี ได้ผู้ต้องหา 15 คน เป็นชาวมาเลเซีย 14 คน และเวียดนาม 1 คน สารภาพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารในมาเลเซียโทร.ข้ามประเทศหลอกเหยื่อ เพิ่งทำแค่ 14 วันได้เงินแล้วร่วม 4 ล้านบาท
วันนี้ (15 มิ.ย. 59) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจโท ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรสันทราย ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่ลักลอบเข้ามาเช่าบ้านในหมู่บ้านจัดสรรพื้นที่ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเป็นคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติหลอกโอนเงินจากชาวมาเลเซีย ได้ผู้ต้องหา 15 ราย
ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่มีสัญชาติมาเลเซีย จำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 4 คน และหญิงชาวเวียดนามอีก 1 คน ซึ่งมีนาย Chin kiat yong ชาวมาเลเซีย อายุ 30 ปี ที่มีภรรยาเป็นคนไทยและพูดฟังภาษาไทยได้เป็นหัวหน้า พร้อมของกลางจำนวนมาก
พลตำรวจโท ธนิตศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมสืบเนื่องมาจากได้รับการแจ้งเบาะแสจากชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย พบข้อสงสัยว่ามีกลุ่มของชาวต่างชาติเข้ามาเช่าบ้านพักในจังหวัดเชียงใหม่อยู่รวมกันมากกว่า 10 คน และมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่า จะเข้ามากระทำผิดกฎหมาย
จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบนานร่วม 2 เดือน จนพบว่ามีพิรุธจริงว่าเข้ามาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างที่เคยจับกุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่หลายครั้ง จากหลักฐานค่าไฟและค่าอินเทอร์เน็ตที่มีการใช้มากผิดปกติ จึงได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 92/180 หมู่บ้านกล้วยไม้ ซอยคำเมือง 13 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
ทำการจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 15 คน เป็นชาวมาเลเซีย 14 คน ชาย 10 คน หญิง 4 คน และหญิงชาวเวียดนามอีก 1 พร้อมด้วยของกลาง 1. โทรศัพท์พื้นฐาน แบบมีสาย และไร้สาย รวม 18 เครื่อง 2. กล่องโทรศัพท์ทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต รวม 4 เครื่อง 3. เอกสารบัญชีรายชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ของเป้าหมายที่จะหลอกลวง(เหยื่อ) จำนวน 1 ชุด (ส่งมาทางอีเมลจากมาเลเซีย) พร้อมเอกสาร บันทึกที่เขียนไว้ขณะพูดคุยกับเหยื่อ 4. สัญญาเช่าบ้าน จำนวน 1 ชุด
เบื้องต้นกล่าวหาว่ามีความผิดซ่องโจรเพื่อฉ้อโกงทรัพย์ของผู้อื่น และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนาย Chin kiat yong รับเป็นหัวหน้าทีม นำตรวจค้น พร้อมรับสารภาพว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารในมาเลเซีย พูดคุยกับเหยื่อทางโทรศัพท์ว่ามีปัญหาเรื่องบัตรเครดิต แล้วพูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อโอนเงินมาให้ขบวนการหลอกลวง
สำหรับเหยื่อการโอนเงินจะอยู่ในประเทศมาเลเซียทั้งหมด ซึ่งบัญชีรายชื่อพร้อมเบอร์โทร.ของเหยื่อจะมีผู้ส่งมาให้ทางอีเมลจากมาเลเซีย เมื่องานสำเร็จทางหัวหน้าใหญ่จากมาเลเซียที่ไม่ทราบว่าเป็นใครจะแบ่งเป็นเงินให้เป็นเปอร์เซ็นต์ โดยหัวหน้าทีมได้ 8% ลูกทีมได้ 6% คนที่เริ่มทำงานใหม่ได้ 3% เริ่มทำงานเมื่อประมาณ 14 วันก่อน ได้เงินจากการหลอกลวงเหยื่อประมาณ 5 แสนริงกิต หรือประมาณ 4 ล้านบาทไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นห้องของนาย Chin หัวหน้าทีม พบยาบ้าจำนวน 7 เม็ด จึงได้แจ้งข้อหาให้นาย Chin เพิ่มเกี่ยวกับยาเสพติด นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป