ศาลอนุมัติหมายจับมือยิงอดีตภรรยาชาวลาวกลางเมืองหนองคาย คาดมอบตัวพรุ่งนี้

หนองคาย - ศาลจังหวัดหนองคายอนุมัติหมายจับหนุ่มใหญ่มือยิงอดีตภรรยาชาวลาวแล้ว ขณะที่ชุดสืบสวนไล่ล่าผู้ต้องหาประชุมเครียดเพื่อติดตามผู้ต้องหาหลังไม่มามอบตัวตามนัด ล่าสุดแจ้งผ่านตำรวจคนสนิทจะขอเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ ขออย่าวิสามัญฆาตกรรม

จากกรณีคดีสะเทือนขวัญนายบูญชู แก้วพิลา หรือน้ำพุ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 6 ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย ได้ก่อเหตุยิง นางสยามพอน หรือสีอำพอน ดวงบุบผา อายุ 44 ปี อดีตภรรยาชาวลาว จนเสียชีวิต และท้าวบุนยะเดด ดวงบุบผา อายุ 20 ปี น้องชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หน้าร้านจันทร์แพงการเกษตร ชุมชนไร่ยาสูบ ถ.มีชัย อ.เมืองหนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 13 มิ.ย. 59 ที่ผ่านมา

หลังจากก่อเหตุนายบุญชู มือปืนก็ได้ขับรถหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ที่บ้านพี่สาว ก่อนใช้รถอีกคันที่เตรียมไว้หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด และหลังเกิดเหตุได้จัดกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่องตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (14 มิ.ย. 59) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่ล่า หลังจากที่นายบุญชู แก้วพิลา หรือน้ำพุ ผู้ต้องหาไม่มามอบตัวตามที่นัดหมายไว้ในเวลา 09.00 น. โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าของการติดตามตัว พบว่ายังพบสัญญาณโทรศัพท์อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองหนองคาย

แต่มีการเปิดเครื่องเป็นบางเวลา และมีการเคลื่อนย้ายจุดจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้โทร.ติดต่อหานายบุญชูได้แต่ไม่รับสาย จึงได้ให้ญาติติดต่อเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว ล่าสุดในตอนเช้าของวันนี้นายบุญชูได้ติดต่อเพื่อนที่เป็นตำรวจ สภ.เวียงคุกนายหนึ่งที่มีความคุ้นเคยกัน ว่าขอเลื่อนวันมอบตัวเป็นวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย. 59) และขอให้ตำรวจรับปากว่าจะไม่วิสามัญตน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับปาก แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมควบคู่กันไป และศาลจังหวัดหนองคายได้อนุญาตหมายจับ นายบุญชู แก้วพิลา เลขที่ 104/2559 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2559 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับสาเหตุของการก่อคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่ความแค้นส่วนตัวจากการถูกอดีตภรรยาชาวลาวฟ้องร้องเอามรดก ที่ศาลประชาชนขั้นต้น สปป.ลาว ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของภรรยา และขณะนี้นายบุญชูได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์คำสั่งศาลประชาชนขั้นต้นไปแล้วเช่นกัน