ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศึกย้าย ผอ.โรงเรียนบานปลาย! นายก อบจ.โคราช ส่งนิติกรโร่ขึ้นโรงพักแจ้งจับกลุ่มผู้ปกครอง ร.ร.เตรียมอุดมฯ อ้างหมิ่นประมาทย้าย ผอ.ไม่เป็นธรรม ขณะที่ ตร.รับลงบันทึกประจำวันชี้ยังไม่ชัดเจน เผยล่าสุดนายก อบจ.สั่งตั้ง กก.สอบเอาผิดวินัยร้ายแรง “ผอ.โรงเรียน” แล้ว หลังผลสอบข้อเท็จจริงสรุปมีมูล ใช้จ่ายเงินชมรมผู้ปกครองผิดระเบียบราชการ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พันจ่าอากาศเอก (พ.จ.อ.) ธงธน ช่างเกวียน นิติกรชำนาญการ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้รับมอบอำนาจจาก ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อคณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา พร้อมหลักฐานเป็นเอกสาร “แถลงการณ์ของคณะผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา” เรื่องชี้แจงผลกระทบคำสั่งย้ายนายไพศาล มีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้านครราชสีมาอย่างไม่เป็นธรรม
ร.ต.อ.สุรัตน์ ลาดหนองขุ่น พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง พร้อม พ.ต.ท.ประภาส มะเริงสิทธิ์ รอง ผกก.สภ.โพธิ์กลาง ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่นิติกร อบจ.นครราชสีมา นำมาประกอบการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว แจ้งว่า เอกสารหนังสือมอบอำนาจของนายก อบจ.นครราชสีมาไม่ชัดเจนว่ามอบอำนาจให้ดำเนินคดีเรื่องอะไร กับใครและในข้อหาอะไร รวมทั้งไม่ระบุชื่อบุคคลผู้ถูกกล่าวหาที่ชัดเจนได้ จึงยังไม่สามารถรับแจ้งความดำเนินคดีได้ ทำได้เพียงให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเพื่อให้ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนำเอกสารและข้อมูลที่ชัดเจนมาให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง
พ.จ.อ.ธงธน ช่างเกวียน นิติกรชำนาญการ อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ได้รับมอบหมายจากนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีที่คณะผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า นครราชสีมา ออกแถลงการณ์ไม่เป็นจริง โดยมีการกล่าวหา ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา ออกคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้าฯ โดยมิชอบ ซึ่งความจริงได้ดำเนินการตามระเบียบที่ถูกต้อง การกระทำของคณะผู้ปกครองฯ ถือเป็นการหมิ่นประมาท
โดยมีข้อความระบุในแถลงการณ์ว่า ทำไม่ถูกต้องเรื่องเกี่ยวกับการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ใช้เฉพาะระเบียบของ อปท.มาดำเนินการ ซึ่งความจริงเราสามารถใช้ระเบียบของ อปท.ได้ แต่คณะผู้ปกครองฯ บอกว่าต้องใช้ระเบียบตัวอื่นๆ ประกอบด้วย ซึ่งการดำเนินการจากนี้ไปขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนของ อบจ.จะมีการตรวจสอบรายชื่อคณะผู้ปกครองฯ ที่ออกแถลงการณ์ดังกล่าวเพื่อนำมาให้พนักงานสอบสวนประกอบการแจ้งความต่อไป
ต่อข้อถามที่ว่าการแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้จะถูกมองว่า นักการเมืองรักแกประชาชนหรือไม่นั้น พ.จ.อ.ธงธนกล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการเข้าแจ้งความครั้งนี้ขอย้ำว่า ต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้รับทราบว่านายก อบจ.นครราชสีมา ไม่ได้กระทำการโดยมิชอบในการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้าฯ แต่เป็นการดำเนินการตามระเบียบที่มีอยู่ และการแจ้งความไม่มีเจตนาที่จะเอาผิดใคร หรือกล่าวหาใคร
พ.จ.อ.ธงธนยังกล่าวถึงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการย้ายนายไพศาล มีสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้าฯ ที่ทาง อบจ.นครราชสีมา มีคำสั่งแต่งตั้งว่า ล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ อบจ.แต่งตั้งขึ้นได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่ามีมูลไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการเก็บเงินบำรุงการศึกษาภาคเรียนละ 15,000 ต่อคน ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาได้มีหนังสือคำสั่ง ที่ 2373/2559 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ลงนามคำสั่งโดย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 6 มิ.ย. 2559 โดยสาระสำคัญระบุว่า ด้วยนายไพศาล มีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาวิทยฐานะ ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้านครราชสีมา และนางจันทร์แรม สีตะธนี ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้าฯ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องนำเงินค่าบำรุงการศึกษาและค่าใช้จ่ายสถานศึกษาหรือรายได้ของสถานศึกษา ทั้งหมดตั้งแต่ปีการศึกษา 2554-2559 เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของชมรมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้านครราชสีมา และ ให้ชมรมผู้ปกครองและครูฯ เป็นผู้ใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าว โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของทางราชการ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเพื่อสอบสวนผู้ถูกกล่าหาในเรื่องดังกล่าวจำนวน 7 คน โดยมี ว่าที่ ร.ต.นิรันทร์ ดุจจานุทัศน์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานกรรมการ