ศูนย์ข่าวศรีราชา - รัฐสั่งเดินหน้าท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 พร้อมตั้งคณะกรรมการรัฐ-เอกชนดูแลปัญหาที่จะสร้างผลกระทบในทุกๆ ด้านอย่างเข้มงวด หวั่นเหมือนเฟส 1-2 โดยเบื้องต้น ต้องเร่งเคลียร์ปัญหาต่างๆ ในอดีตเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ชาวบ้าน
นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวถึงโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 นั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หลังคณะกรรมการฯ และชาวบ้านเข้าพบ เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับคำยืนยันแล้ว และที่สำคัญเป็นนโยบายของรัฐบาลให้รีบดำเนินการในทันที เนื่องจากต้องการให้พื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
โดยในขณะนี้มีการจัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาปัญหา และผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และในช่วงที่ผ่านมาของเฟส 1 -2 ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และมีแนวทางแก้ไข และช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง โดยเบื้องต้น ได้เสนอให้บริษัทที่ปรึกษาเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการในโครงการนี้ ประกอบด้วย นักวิชาการ ชุมชน หน่วยงานรัฐในพื้นที่ และการท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งต้องกระชับ และจำนวนไม่กี่คน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน
นายสนธิ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่คณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง เคยเสนอให้ท่าเรือแหลมฉบัง และบริษัทที่ปรึกษาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบสมัยโครงการ เฟส 1-2 ที่ผ่านมา เช่น โครงการพื้นที่สีเขียวในเนื้อที่ 55 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากการท่าเรือฯ แล้ว พร้อมเตรียมลงพื้นที่ในเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันวางรายละเอียดรูปแบบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
นอกจากนั้น วัดแหลมฉบัง ซึ่งที่ผ่านมาถูกยกเลิกเป็นวัดจึงไม่สามารถบวชพระภิกษุสงฆ์ได้ แต่ในขณะนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะดำเนินการให้เพื่อให้สามารถบวชพระภิกษุสงฆ์ได้ พร้อมโรงเรียนบ้านแหลมฉบัง ให้เป็นโรงเรียนมาตรฐานด้านการศึกษา ที่สำคัญเตรียมจัดพื้นที่ชุมชนบ้านแหลมฉบังทั้งหมดให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ร้านค้าขายของในรูปแบบที่เหมาะสม
ด้านนายมาโนช ทรงโยธิน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า พื้นที่แหลมฉบัง-อ่าวอุดม ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อจากโครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 1-2 นั้น การท่าเรือฯยังไม่มีการเยียวยา หรือช่วยเหลือให้เกิดเป็นรูปธรรม ดังนั้น ขอให้การท่าเรือฯ ทำให้สำเร็จก่อน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว