กรมน้ำบาดาลติดตามผลการช่วยหาน้ำดื่มน้ำใช้แก้ภัยแล้ง นร.ชายแดนในโครงการพระราชดำริ

อุบลราชธานี - กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามการสนับสนุนเจาะบ่อบาดาลนำน้ำให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนใช้ในกิจกรรมเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชใช้เป็นอาหารเด็กนักเรียนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังประสบปัญหาขาดน้ำใช้ในฤดูแล้งมานาน

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตาเอ็ม ต.ตาเกา อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 11 อุบลราชธานี เข้าตรวจดูการทำงานของระบบการสูบน้ำและจ่ายน้ำบาดาล

โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 11 อุบลราชธานี เข้ามาขุดบ่อ พร้อมก่อสร้างระบบประปาบาดาลขนาด 12 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ระบบ มีกำลังผลิตน้ำใช้ให้กับการทำกิจกรรมของโรงเรียนวันละกว่า 40,000 ลิตร

นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอาคารพร้อมติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำแบบ RO หรือรีเวิร์สออสโมซิสอีกจำนวน 1 ระบบ เพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีการทำบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ ปลูกพืชผักสวนครัวใช้เป็นอาหารให้เด็กนักเรียน

ทำให้นักเรียน และครูโรงเรียนตระเวนชายแดนบ้านตาเอ็ม ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และที่ผ่านมาในช่วงฤดูแล้งขาดน้ำดื่มน้ำใช้ ต้องลำเลียงน้ำเข้ามาสนับสนุนเป็นประจำทุกปี ได้มีน้ำดื่มน้ำใช้และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ขณะเดียวกัน นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแก่งศรีโคตร และโรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการสนับสนุนการขุดบ่อน้ำบาดาลและก่อสร้างระบบน้ำประปาหลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ในฤดูแล้งเช่นกัน

โดยโรงเรียนทั้งสองแห่งก็เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนและประชาชนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารตามแนวชายแดนไทย-ลาวได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย