เชียงใหม่ - ช่างตัดผมหนุ่มเชียงใหม่ไอเดียดี แค่เปิดรับจองคิวทางโทรศัพท์ไม่ให้ลูกค้ามานั่งรอนาน คนแห่ใช้บริการตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนบางวันต้องขอเวลานอกหยุดกินข้าว ทำเงินได้เดือนละไม่น้อยกว่า 3-5 หมื่น ขณะที่ช่างผมวินเทจเชียงใหม่-ลำพูน รวมกลุ่มช่วยสังคมไม่หยุด ล่าสุดเปิดโต๊ะตัด-สอนเด็กบำบัดยาเสพติดถึงที่ หวังคืนคนดีสู่สังคม
ขณะที่การทำมาค้าขายของพ่อค้าแม่ขายตลอดจนร้านค้าบริการรายย่อยต่างๆ อยู่ในสภาพค่อนข้างฝืดเคือง ลูกค้าหาย-กำไรถดกันทั่วหน้านั้น แต่ร้านตัดผมหนุ่ยบาร์เบอร์ ร้านตัดผมเล็กๆ ในชุมชนบ้านท่อ ป่าตัน ในตัวเมืองเชียงใหม่ กลับมีลูกค้ารอจองคิวเข้าใช้บริการตั้งแต่เปิดร้าน 09.00-20.00 น.ทุกวัน จนบางวันช่างหนุ่ยเจ้าของร้านต้องยกมือขอเวลานอกเพื่อหยุดกินข้าว ทำรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 30,000-50,0000 บาทกันเลยทีเดียว
นายพิชัย ครองจริง อายุ 39 ปี หรือหนุ่ย ช่างตัดผมประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี บอกว่าเริ่มแรกเปิดร้านเล็กๆ รับตัดผมจนมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมาเช่าอาคารพาณิชย์ใกล้กับร้านเดิม เป็นห้องปรับอากาศ คิดราคาค่าตัดผม เด็กเล็ก 40 บาท เด็กโต 60 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท
ต่อมาลูกค้าติดใจในฝีมือการตัดผมมานั่งรอกันมาก บางวันมานั่งรอตัดผมนานหลายชั่วโมง จึงแจกเบอร์โทรศัพท์ให้ลูกค้าโทร.มาจองคิวก่อน หรือมานัดหมายเวลาช่วงไหนว่างกี่โมงให้มาช่วงเวลานั้นเพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องมานั่งรอ สามารถกลับไปทำงานอย่างอื่นหรือทำธุระได้ จนกลายเป็นที่มาร้านตัดผมบัตรคิว
ขณะที่นายไมตรี ม่วงทอง หรือช่างบอย เจ้าของร้านบอยบาร์เบอร์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และบอยบาร์เบอร์สาขา 2 จ.ลำพูน และนายก่อเกียรติ กุศล หรือช่างก่อ เจ้าของร้านกู๊ดไล้ท์บาร์เบอร์ จ.เชียงใหม่ และทีมงานช่างผมวินเทจ Destiny family barber จิตอาสา ที่มีฝีมือตัดผม-แกะลายทุกรูปแบบ ในอัตราค่าบริการหลักหลายร้อย จนถึงหลักพัน ก็ยังคงรวมกลุ่มออกบริการสังคม ทั้งตระเวนตัดผมฟรีให้เด็กนักเรียนห่างไกล-ทหารเกณฑ์ตามค่ายต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดกลุ่มช่างผม Destiny family barber ได้รวมตัวตัดผม พร้อมทั้งสอนการตัดผมฟรีให้กับผู้ที่เข้ารับการบำบัดที่บ้านพระเมตตา บ้านเลขที่ 111 หมู่ 20 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นแนวทางอาชีพก่อนที่จะมอบทุนทรัพย์ส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ตัดผม โดยมีนางวันเพ็ญ อำนาจกิติกร อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการบ้านพระเมตตา นำผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดจำนวน 35 คน เข้าตัดผม-เรียนรู้เทคนิคการตัดผมจากช่างผู้ชำนาญ เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตด้วย
นายไมตรี ม่วงทอง หรือช่างบอย เปิดเผยว่า บ้านพระเมตตานั้นเป็นสถานบำบัดที่ใช้การดูแลแบบชุมชน คือ มีกฎระเบียบชุมชนเข้ามาดูแลบำบัดผู้เข้ารับบำบัดทุกคน แต่ภายในยังไม่มีร้านตัดผมจึงอยากให้มีการทำร้านตัดผมจำลองขึ้นมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดได้ลดละเลิกยาเสพติด แล้วหันมาประกอบอาชีพตัดผม หรืออาชีพสุจริตอื่นๆ กันเพื่อให้อยู่ร่วมในสังคมได้
“สิ่งสำคัญคือต้องให้ความเชื่อมั่นแก่น้องๆ เหล่านี้ว่าเราต้องเชื่อว่าเราทำได้ก่อน ขณะเดียวกันการให้โอกาสนั้นสำคัญกว่าการช่วยเหลือด้วยเงินทอง”