กำแพงเพชร - ตำรวจเมืองกล้วยไข่ โชว์ผลงานตามรวบคนร้ายซิ่งมอเตอร์ไซค์ ใช้มีดทำครัวตระเวนจี้ชิงทรัพย์รีสอร์ตวันเดียว 2 รายซ้อน พบเป็นหนุ่มวัยโจ๋ก่อเหตุแล้วหนีไปกบดานถึงปทุมฯ-อยุธยา อ้างร่างกายอ่อนแอไม่มีแรงทำอย่างอื่น ตัดสินใจลงมือชิงทรัพย์หาเงินใช้
วันนี้ (6 มิ.ย.) พ.ต.อ.วรชิต จันทร์วงศ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมกันแถงข่าวการจับกุมตัว นายนิโรจน์ กำเนิดผล อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 14 ต.อ่างทอง อ.เมืองกำแพงเพชร ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
การจับกุมมีขึ้นหลังเกิดเหตุคนร้ายทำทีเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตเมืองกำแพงเพชร เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 23 พ.ค. จากนั้นได้ใช้อาวุธมีดออกมาจี้บังคับให้แคชเชียร์ส่งเงินให้ ได้เงินสดในครั้งนั้นไปจำนวน 4,900 บาท แล้วได้หลบหนีไป
ต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น.วันเดียวกัน ก็มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ลักษณะเดิมอีกครั้งที่รีสอร์ตอีกแห่งหนึ่งในเขต ต.หนองปลิง อ.เมืองกำแพงเพชร ได้เงินสดไป 290 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ทรู สีดำ อีก 1 เครื่อง จากนั้นได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
พ.ต.อ.วรชิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชร์พงศ์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.กำแพงเพชร และชุดสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร (ชุดสืบเพชรดำ) ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่คนร้ายก่อเหตุค่อนข้างอุกอาจ สร้างความเดือนร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบ และติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์อย่างอุกอาจทั้ง 2 ครั้ง คือ นายนิโรจน์ กำเนิดผล ผู้ต้องหา และหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา จึงติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.59 ที่บริเวณบนถนนสุขาภิบาล 1 หมู่ที่ 7 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเขียวส้มขาว ทะเบียน 1 กง 9563 กำแพงเพชร 1 คัน หมวกกันน็อกแบบเต็มหน้า 1 ใบ อาวุธมีดทำครัวยาวประมาณ 11 นิ้ว 1 เล่ม และเสื้อกางเกงของคนร้ายที่ใช้ในวันก่อเหตุ
ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกล่าวถึงสาเหตุที่ก่อคดีว่า เนื่องจากตนเองมีอาการป่วยหลายโรค และอายุยังน้อย อยู่บ้านนอกไม่มีงานทำ ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะทำงานได้จึงตัดสินใจก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์เหยื่อติดต่อกันทั้ง 2 ราย เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน