ตราด-รอง ผบช.ภ.2 พร้อมเจ้าของโรงแรมสยามบีชเดินทางเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมซื้อของเล่นให้น้องรีออง ระบุยังยังไม่ดำเนินคดี รอตรวจโรงแรมพรุ่งนี้หาหลักฐานเพิ่ม ด้านเจ้าของ รร.บอกช่วยเต็มที่ “แม่น้องรีออง” เผยนาทีชีวิต อาคารทับร่างพร้อมลูกที่กอดไว้แน่น
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลตราดพล.ต.ต.วรัฒม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และคณะ รวมทั้งนายบุญช่วย กุลศรีวรชัย เจ้าของโรงแรมสยามบีช เกาะช้าง เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์อาคารโรงแรม..สยามบีช เกาะช้าง จ.ตราดทรุดและทับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่จนได้รับบาดเจ็บ 5 รายและเสียชีวิต 1 รายนั้น โดยที่โรงพยาบาลตราดได้เข้าเยี่ยม 3 พ่อแม่ลูก ประกอบด้วย 1.นายไพโรจน์ วิริยะรักษ์ 2.น.ส.วรี สุนทรสาร 3.ด.ช.รีออง วิริยะรักษ์ ทั้งสามคนพักอยู่ห้องพักชั้นล่างและถูกอาคารทรุดทับลงมา โดยเฉพาะน.ส.วรี สุนทรสารติดอยู่กับซากอาคารนานถึง 4 ชม.กว่า
โดยรองผบช.ภาค 2 ได้คุยทักทายและสอบถามอาการบาดเจ็บจากนายแพทย์เกตุวุฒิ อิทธิเวสส์
ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรพยาบาลตราด และได้มอบของเล่นให้กับน้องรีอองด้วย ขณะที่นายบุญช่วย กุลศรีวรชัย ได้มอบเงินช่วยเหลือเบี้องต้นให้รายละ 10,000 บาท พร้อมจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด
พลตำรวจตรีวรัฒม์ชัย กล่าวว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ทางผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ได้มอบหมายให้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและติดตามอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานของพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น ต้องรอให้ผู้ชำนาญการการและตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่าจะดำเนินการตรวจข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน เพื่อจะติดสินใจว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ อย่างไร แต่ในเบี้องต้นทางเจ้าของโรงแรมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและสินไหมให้ทั้งหมด
ส่วนนายบุญช่วย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ได้มีการสร้างอาคารคร่อมทางน้ำไหลตามที่เป็นข่าว ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นประมาณ 3 เดือน ได้ให้ทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.ตราด มาตรวจสอบความแข็งแรงและปลอดภัยเพื่อต่อใบอนุญาตที่กำลังหมดลง ซึ่งตรวจสอบแล้วก็ผ่านไม่มีปัญหาในเรื่องความไม่ปลอดภัย จากนั้นอีกเดือนหนึ่งก็นำวิศวกรมาตรวจสอบที่โรงแรมอีกครั้งก็ผ่านทั้งหมด ซึ่งเมื่อเหตุการณ์ครั้งนี้จึงตัดสินใจจะทุบอาคารโซน A ทิ้งหมดจะไม่มีการซ่อมแซมเพราะหากเกิดทรุดตัวลงมาอีกจะยิ่งเกิดความเสียหายขึ้นอีก
"ความจริงที่มีน้ำขังนั้น เพราะทางโรงแรมได้ขุดเป็นสระน้ำเพื่อปลูกบัวและต้นไม้ขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่น แต่ก่อนหน้านี้เกาะช้างขาดน้ำ และแล้งมากน้ำใต้ดินคงหมดและเมื่อเกิดฝนตกลงมาทำให้พื้นใต้อาคารอ่อนและรับน้ำหนักไม่ไหวจึงทรุดลงมา เรื่องของเรื่องก็มีเท่านี้"
นายบุญช่วย กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าเสียหายนั้นทางโรงแรมสยามบีช เกาะช้างได้ทำประกันอาคารไว้ รวมทั้งตัวบุคคลไว้ซึ่งประกันภัยอยู่ระหว่างการประเมินค่าความเสียหาย ซึ่งค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทั้งหมดจะจ่ายชดเชยให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งวันนี้ได้มอบไปเบื้องต้น รายละ 10,000 บาท
ส่วนผู้เสียชีวิตที่ญาติเดินทางมารับศพ ได้มอบเงินค่าเดินทางและขนส่งศพไปที่กรุงเทพฯ และค่าจัดงานศพรวม 50,000 บาท และจะรับเป็นเจ้าภาพในงานด้วยทั้งค่าชดเชยจะจ่ายให้ทุกคนจนเป็นที่พอใน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากออกมาก่อนนั้นได้มอบเงินปลอบขวัญไปรายละ 11,000 บาท รวม 22,000 บาทแล้วเช่นกัน
นางสาววรี สุนทรสาร แม่น้องรีออง ที่ประสบอุบัติเหตุอาคารโรงแรมสยามบีช เกาะช้างทับร่างตัวเอง ลูกชาย สามี และเพื่อน โดยนางสาววรี ได้เปิดเผยกับทีมข่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า เหตุการณ์เกิดในช่วงเวลา 06.00 น. เศษ ตัวเอง สามี และเพื่อน รวมทั้งน้องรีออง นอนอยู่ในห้องพักทั้งหมด ซึ่งน้องรีอองจะนอนเตียงเสริม ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงกระจกแตกที่ห้องด้านข้าง ตกใจจึงเรียกให้สามีและเพื่อนรู้ตัว และบอกว่าอย่าให้เดินไปที่ห้องข้าง ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไร ก็มีกระจกแตกที่ห้องที่ตัวเองนอน สามีและเพื่อนพยายามที่จะไปถีบประตู แต่เปิดไม่ออก
ระหว่างนั้นคิดว่าอาคารน่าจะถล่ม จึงได้ไปหยิบหมอนที่หัวเตียงมากอดไว้พร้อมกับน้องรีออง แต่คานของอาคารได้ตกลงมาเร็วมากกำแพงที่อยู่ด้านข้างก็ตกลงมาทับที่ตัว โชคดีที่กอดน้องรีอองไว้ ทำให้ตัวเองล้มในลักษณะคว่ำหน้าส่วนน้องรีอองเงยหน้าขึ้น ส่วนเพื่อนเห็นถูกคานทับที่ศีรษะ จากนั้นไม่รู้อะไรเลย เนื่องจากมืดมาก ด้านบนของน้องรีออง จะมีแผ่นยิปซั่มทับลงมาด้วย และอากาศหายใจไม่มี จึงตัดสินใจใช้มือขูดแผ่นยิปซั่มให้มีอากาศเข้ามาเพื่อหายใจ
“ช่วงนั้นไม่สามารถขยับร่างกายได้เพราะท่อนล่างตั้งแต่สะโพกถูกคานทับเมื่อขยับจะรู้สึกเจ็บ และมีแผนปูนที่มีเหล็กด้านในทับลงมาอีก ส่วนน้องรีออง ก็ตกใจและร้องไห้ ตนเองได้พูดปลอบน้องรีอองไม่ให้ร้องไห้ พร้อมกันนี้ก็ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ซึ่งช่วงนั้นคิดว่าจะไม่รอดชีวิตเนื่องจากอึดอัดและแน่นจากการถูกของที่มีน้ำหนักมากทับอยู่ แต่ตั้งสติไว้ เพราะเคยดูข่าวเหตุการณ์ในประเทศเนปาล จึงได้รวบรวมสติแล้วปลอบลูกไม่ให้กลัว ซึ่ง 4 ชั่วโมงที่อยู่ในซากตึกคิดว่าทั้งตัวเองและลูกจะไม่รอด แต่โชคดีที่สามารถรอดชีวิตมาได้จากการช่วยเหลือของทุกคน”
นางสาววรี กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และเดินทางไปเที่ยวกันทุกปี โดยเฉพาะที่เกาะช้างมาทุกปี ซึ่งปกติจะเดินทางมาในช่วงของซัมเมอร์ แต่ปีนี้ติดงานจึงเลื่อนการเดินทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน และเพื่อนก็บอกว่าให้มานอนที่โรงแรมสยามบีช เพราะมีเพื่อนเป็นเจ้าของอยู่
ระหว่างเดินทางมา รถตู้ก็เตือนว่าโรงแรมนี้มีปัญหามาก และมักมีคนตาย จึงไม่ควรไปพัก แต่เพื่อนได้มีการจองห้องพักไว้แล้ว จึงตัดสินใจมาพัก ซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยในแต่ละปี เราทุกคนจะเก็บเงินเพื่อเดินทางไปเที่ยวสักครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ส่วนการชดเชยการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล จะมากเท่าไรก็คงจะไม่คุ้มกับการสูญเสียเพื่อน และการเสียขวัญของลูกที่ทำให้เค้าจดจำไปได้ตลอดชีวิตกับเหตุการณ์นี้