บุรีรัมย์ - ชลประทานบุรีรัมย์ เตือนเกษตรกรทั้งใน และนอกเขตชลประทานเลื่อนการทำนาปีไปอีกสักระยะ หลังฝนตกน้อยน้ำไม่ไหลเข้าอ่าง ทำให้ปริมาณน้ำยังต่ำหวั่นไม่เพียงพอผลิตประปา ทั้งอาจเสี่ยงฝนทิ้งช่วงกระทบผลผลิตเสียหายได้ โดยล่าสุดมี ปริมาณน้ำในอ่างทั้ง 16 แห่ง เพียงร้อยละ 44 ของความจุ
วันนี้ (28 พ.ค.) นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนเกษตรกรทั้งใน และนอกเขตชลประทานให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปีออกไปก่อนอีกสักระยะ หรือประมาณกลางเดือนมิถุนายน เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลผลิตข้าวที่จะขาดน้ำหล่อเลี้ยงเสียหาย
เนื่องจากขณะนี้แม้จะมีพายุฝนเข้ามาในพื้นที่ 4-5 ครั้ง แต่ยังไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดกลาง และขนาดใหญ่ที่อยู่ในความดูแลรวม 16 แห่งทั้งจังหวัด ทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างมีปริมาณต่ำเหลือเพียง 128 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ยร้อยละ 44 ความปริมาณความจุอ่างกว่า 291 ล้านลูกบาศก์เมตร และหากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า ปีนี้มีน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
จึงอยากให้เกษตรกรรอดูสถานการณ์ฝนเพื่อประเมินปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าอ่างอีกสักระยะ เพราะต้องสำรองน้ำต้นทุนไว้ใช้ในการผลิตประปาด้วย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ทั้งจังหวัดมีพื้นที่นาในเขตชลประทานกว่า 208,000 ไร่
นายกิติกุล ยังระบุอีกว่า การจะส่งน้ำให้เกษตรกรทำการเกษตร หรือเพาะปลูกข้าวนั้นจะต้องมีการประชุมหารือของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำของแต่ละอ่างก่อน เพื่อคำนวณปริมาณน้ำในอ่าง การระเหยรั่วซึม ปริมาณน้ำที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งน้ำทำการเกษตร และน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ