มหาสารคาม - แตกต่างไม่เหมือนที่ใด “หอระฆัง” วัดตระคลอง อ.วาปีปทุม สร้างด้วยโอ่งกว่า 6,000 ใบ ญาติโยมร่วมลงแรงด้วยศรัทธาใช้เวลาสร้าง 1 ปีเสร็จ
วัดเป็นศูนย์รวมใจของเหล่าพุทธศาสนิกชน เมื่อเข้าไปทำบุญตามวัดต่างๆ สิ่งที่เห็นภายในวัดจะขาดเสียไม่ได้คือ หอระฆัง หอกลอง ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ในการสร้างจะเป็นเครื่องไม้ หรือที่สร้างด้วยโครงสร้างแบบก่ออิฐถือปูน แต่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม วัสดุที่ใช้ไม่เหมือนวัดแห่งอื่น เพราะที่นี่ หอระฆัง หอกลอง ทำจากโอ่งขนาดน้อยใหญ่รวมกันมากกว่า 6,000 ใบ สวยงามแปลกตาหาดูยาก
หลวงพ่ออุดม เตชะวโร เจ้าอาวาสวัดตระคลอง เล่าว่า ในสมัยโบราณ การบอกเวลาในโมงยามจะใช้การตีกลองและระฆัง จึงมีการสร้างหอระฆังและหอกลองมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน โดยมากพบในวัด ทั้งเขตพุทธาวาส และสังฆาวาส ใช้แขวนระฆังและกลองสำหรับตีบอกเวลา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ทราบเวลาสำหรับการประกอบวัตรปฏิบัติต่างๆ โดยพร้อมเพรียงกัน อันได้แก่ การทำวัตรเช้า-เย็น การฉันเพล
รูปแบบและโครงสร้างของหอระฆังและหอกลองนั้นมีความคล้ายคลึง อาจแตกต่างกันเฉพาะชื่อเรียกเท่านั้น โดยทั่วไปมักสร้างขึ้นโดยใช้แผนผังรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เน้นให้มีรูปทรงสูง วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดเครื่องไม้ โครงสร้างแบบก่ออิฐถือปูนเช่นเดียวกับการก่อสร้างตึกทั่วๆ ไป
สำหรับการก่อสร้างหอระฆัง และหอกลองที่เห็นในวัดแห่งนี้ออกแบบและก่อสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดรูปก่อน ซึ่งได้มรณภาพไปแล้วนานกว่า 10 ปี หลังจากท่านออกแบบแล้วได้ให้ญาติโยมเดินทางไปซื้อโอ่งมังกรขนาดต่างๆ ประมาณ 6,000 ใบ รวมงบประมาณในการก่อสร้างเฉพาะค่าวัสดุ ปูนซีเมนต์ หินและทราย 600,000 บาท ไม่รวมค่าแรง ซึ่งอาศัยแรงงานจากพระในวัดและญาติโยมเข้ามาช่วยกันก่อสร้าง ลักษณะลงแรงทำบุญร่วมกันใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีจึงแล้วเสร็จ
หอระฆังและหอกลองหลังนี้มีความสูงประมาณ 15 เมตร ด้านล่างเป็นที่ตั้งของกลองขนาดใหญ่ ส่วนด้านบนชั้น 2 เป็นที่แขวนระฆัง
ด้านแรงบันดาลใจที่ใช้โอ่งมังกรในการก่อสร้าง เนื่องจากโอ่งมังกรมีลวดลายที่สวยงาม อีกทั้งภายในโอ่งยังสามารถใส่เหรียญ วัตถุมงคลที่ญาติโยมมาร่วมทำบุญได้นำไปบรรจุไว้ภายใน วันข้างหน้าจะกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับให้รุ่นต่อๆ ไปได้ศึกษา รวมถึงความแปลกใหม่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมอีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันวัดยังคงใช้การตีระฆังและกลองเพื่อบอกเวลาปฏิบัติกิจของสงฆ์เช่นเดิม นอกจากเป็นเสียงที่ดังกังวานและเยือกเย็นแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของการสร้างหอระฆังและหอกลองของไทยไว้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีความงามที่วัดได้สร้างขึ้นด้วยโอ่งอีกเช่นกัน คือ หอพระที่ตกแต่งด้วยโอ่งขนาดต่างๆ จำนวนกว่า 2,500 ใบ โดยหอพระแห่งนี้มีนามว่า “พระศรีสรรเพชร” ส่วนบนสร้างพระพุทธเจ้าลักษณะปางมารวิชัย
ส่วนด้านล่างเป็นโถงซึ่งภายในประดิษฐานรูปปั้นของหลวงพ่อใจ อดีตเจ้าอาวาส และหลวงพ่อเสริม เจ้าคณะอำเภอหัวหิน ผู้ที่เดินทางมาสร้างพระอุโบสถให้กับวัดตระคลองแห่งนี้ ให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาและระลึกถึงคุณความดีที่ได้สร้างและพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวชุมชน