อุบลราชธานี - เกษตรกรผู้ปลูกผักแขยง อุบลราชธานี ต้องเก็บผลผลิตไม่ให้เสียหายจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากในช่วงนี้ ขณะที่ชาวบ้านถูกพายุพัดบ้านพังในอำเภอสำโรงต้องช่วยกันซ่อมแซมบ้านใช้รับมือน้ำฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดมีบ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหายเพิ่มอีก 8 หลัง
นายทวน ทาประจิตร อายุ 36 ปี บ้านโนนสว่าง หมู่ 14 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวได้เร่งเก็บผักแขยงออกจากแปลงปลูกซึ่งมีน้ำมากจากน้ำฝนที่ตกลงต่อเนื่อง โดยผักที่ยังโตไม่เต็มที่ย้ายไปปลูกต่อในแปลงที่ติดกันซึ่งยังไม่มีน้ำขัง ส่วนที่โตเต็มที่แล้วได้เก็บเข้าไปขายในตลาดเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำฝนที่ตกลงมามากเกินความต้องการของผักชนิดนี้
ขณะที่นายรำพูล ทาระศรี กำนันตำบลขามป้อม อ.สำโรง นำชาวบ้านโนนแคน ต.ขามป้อม ช่วยกันซ่อมแซมบ้านนายบุญมี เจริญทัศน์ เพื่อนบ้านที่ประสบพายุหมุนพัดเอาหลังคาบ้านพังเสียหายทั้งหลังตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ หลังนายบุญมีและครอบครัวต้องอาศัยอยู่ชั้นล่างและได้รับผลกระทบมีน้ำฝนสาดเมื่อมีฝนตกลงมาในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา
สำหรับบ้านโนนแคน ต.ขามป้อม มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากพายุหมุนจำนวน 20 หลัง มีบ้านพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลัง ที่เหลือได้รับผลกระทบหลังคาเปิด ซึ่งทางอำเภอได้รายงานขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำมาซ่อมแซมจนบ้านใช้การได้เกือบครบทุกหลังแล้ว
นอกจากนี้ ก็มีบ้านเรือนของประชาชนในตำบลค้อน้อย อ.สำโรง จำนวน 2 หมู่บ้าน ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำบ้านเรือนและโรงเรือนใช้เลี้ยงสัตว์เสียหายเพิ่มเติมอีก 8 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกทำการสำรวจให้ความช่วยเหลือแล้วเช่นกัน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่ จึงขอให้ระมัดระวังอย่าอยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้าง หรือต้นไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรงขณะเกิดพายุฝนไว้ด้วย