ร้อยเอ็ด - ปภ.เมืองเกินร้อยออกช่วยผู้ประสบวาตภัย พบมีบ้านพังจำนวนมาก และพบบ้านที่เพิ่งกู้เงินมาสร้างพังลงทั้งหลัง ผู้ว่าฯ สั่งนายก อบต.นับจากนี้ไปการสร้างบ้านเรือนของชาวบ้านต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อให้กองช่างมาตรวจสอบโครงสร้างก่อนอนุญาตเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
วันนี้ (11 พ.ค.) นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคและวัสดุซ่อมแซมบ้านไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนเมื่อหลายวันที่ผ่านมา
โดยนำสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภคจากกาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมทั้งอุปกรณ์การซ่อมแซมบ้านเรือนชาวบ้านจากป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ดไปมอบให้ จำนวน 28 หลังคาเรือน ที่ศาลาวัดบ้านโพนดวน ต.ศรีสว่าง อ.โพนทราย และเดินทางต่อไปมอบให้แก่ชาวบ้านบ้านผือโพด ต.ทุ่งศรีเมือง อ.สุวรรณภูมิ อีก 12 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุ
หลังจากการมอบสิ่งของช่วยเหลือแล้ว ทางด้านทหาร ค่าย ร.16 พัน.1 ได้นำทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนให้แก่ชาวบ้านด้วยทั้ง 2 อำเภอ
ในขณะที่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดร้อยเอ็ดจัดกำลังทหารร่วมกับ ชปพท. โดย ชป.กร.ที่ 1 ร่วมกับ ส.พยาบาล รพ.ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ได้รับแจ้งจาก นายเสน่ห์ กรวิรัตน์ ผญบ.ม.3 บ.พยอม ต.ดินดำ อ.จังหาร จว.ร.อ. ว่าได้เกิดวาตภัย (พายุฤดูร้อน) ทำให้บ้านเรือนและยุ้งฉางข้าว และบ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก
หลังจากการตรวจสอบความเสียหายแล้ว ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้แจกวัสดุซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนแล้ว แต่ขาดกำลังช่างที่จะช่วยซ่อมแซม ได้นำกำลังทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนและฉางข้าวของชาวบ้านที่เสียหายโดยเร่งด่วนแล้ว
จากการที่ นายอนุสรณ์ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่แจกสิ่งของและตรวจสอบความเสียหายของชาวบ้าน และได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด พบว่าเป็นบ้านของนางถนอม บุญวัฒน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 2 บ้านผือโพด ต.ทุ่งศรีเมือง ซึ่งเพิ่งได้กู้เงินจาก ธ.ก.ส.สาขาสุวรรณภูมิ จำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) มาสร้างบ้านหลังใหม่แทนบ้านหลังเดิม
แต่การก่อสร้างยังไม่เสร็จ กลับถูกพายุพัดพังเสียหายทั้งหลัง และแม้แต่เสาปูนที่ซื้อมาใหม่ทั้ง 12 ต้นก็หักหมด และจากการตรวจสอบสภาพการก่อสร้างไม่ได้ถูกต้องตามแบบของการก่อสร้างที่จะต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรง และสอบถามจากนายก อบต.ก็ทราบว่าการก่อสร้างไม่ได้มีแบบแปลน และไม่ได้ขออนุญาตด้านการปลูกสร้างให้ถูกต้องแข็งแรง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
จึงกำชับว่าต่อไปให้ อบต.เข้าไปควบคุมดูแลการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนทุกหลังที่จะสร้างใหม่ให้ถูกแบบแปลน ให้มีความเข้มแข็งแข็งแรง
“ต่อไปจะสั่งให้เป็นข้อกำหนดเลย ให้ฝ่ายกองช่างของ อบต.และเทศบาลทุกแห่งเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วยความเข้มงวดต่อไป” ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดกล่าว