ศรีสะเกษ - ผู้แทนสมเด็จฯ ฮุน เซน และ ผบ.กกล.สุรนารี กองทัพภาค 2 ร่วมทำบุญตักบาตรฝังลูกนิมิตวัดกัมพูชา เสริมสร้างสัมพันธไมตรีไทย-กัมพูชาในมิติทางพระพุทธศาสนา เผยมีพระสงฆ์และประชาชนสองชาติร่วมพิธีจำนวนมาก
วันนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเจียตึ๊กจุม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 19 กม. พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผบ.พล.ร.6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย นายวัฒนา พุฒิชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ด้านการท่องเที่ยว พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี นางอุดมลักษณ์ ประชุมรักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวไทย ประมาณ 100 คน ไปร่วมพิธีทำบุญตักบาตรฝังลูกนิมิตพระอุโบสถของวัดเจียตึ๊กจุม และมี พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนาและเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ได้นำคณะสงฆ์ไทยจำนวน 30 รูปไปร่วมพิธีด้วย
ในการจัดพิธีครั้งนี้ พล.อ.กุน กิม รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการร่วมกองกำลังทหารสูงสุด ประเทศกัมพูชา ในฐานะผู้แทนของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา เป็นประธานในพิธี และมีนายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากมาให้การต้อนรับ โดย พล.อ.กุน กิม ได้มอบอุปกรณ์การเรียนให้แก่ตัวแทนของคณะครู ก่อนประกอบพิธีเปิดพระอุโบสถของวัด ทำพิธีฝังลูกนิมิต จำนวน 9 ลูก
จากนั้น พล.ต.สนธยา ร่วมกับ พล.อ.กุน กิม ได้นำคณะประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชาร่วมกันทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 59 รูป มีการนำต้นเงินที่ประชาชนชาวไทยร่วมกันบริจาคถวายแด่พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ เพื่อจะได้รวบรวมปัจจัยไปช่วยสมทบทุนในการก่อสร้างพระอุโบสถของวัดให้แล้วเสร็จ บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นเต็มไปด้วยมิตรภาพไมตรีที่ดีต่อกัน
พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผบ.กกล.สุรนารี กล่าวว่า การนำคณะนายทหารไทยและประชาชนมาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับกัมพูชาในมิติทางพระพุทธศาสนาในช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชา เนื่องจากชาวไทยและชาวกัมพูชาต่างนับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกัน ดังนั้น การจัดพิธีทางศาสนาต่างๆ จะมีลักษณะคล้ายกัน การได้มาร่วมกิจกรรมกันในครั้งนี้จะทำให้มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีการพบปะพูดคุยร่วมกิจกรรมกันเป็นประจำ จะช่วยให้ลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้หมดสิ้นไปด้วย
