เชียงราย - จังหวัดเชียงรายเดินหน้าชูวิถี 17 ชาติพันธุ์ ปลุกกระแสดึงคนเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมเปิดคาราวานนำร่องวันนี้ (19 พ.ค.) ออกจากศาลากลางฯ ออนทัวร์ดอยตุง-ไทยยองแม่จัน ชมไตลื้อ ไตเขิน ไตใหญ่บ้านผาแตก ฯลฯ เผยมี 35 หมู่บ้านชนเผ่าพร้อมรับแล้ว
นายอาคม สุขพันธ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “เที่ยวได้ทั้งปี:เสน่ห์เชียงรายหลากหลายชาติพันธุ์” ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค.นี้ ตามยุทธศาสตร์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ส่งเสริมชนพื้นเมืองและชาติพันธุ์ที่มีมากกว่า 17 ชาติพันธุ์ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นล้านนา ภูมิปัญญา ฯลฯ ที่เป็นเอกลักษณ์ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดด้านการท่องเที่ยว
โดยจัดเสวนาทางวิชาการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ในวันแรก (18 พ.ค.) ก่อนที่จะจัดคาราวานนำร่องสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในวันนี้ (19 พ.ค.) จากศาลากลาง จ.เชียงราย-พระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย-ชาติพันธุ์ไทยยอง บ้านสันทางหลวง อ.แม่จัน และชนวิถีแห่งความหลากหลายของชาติพันธุ์ไต ได้แก่ ไตลื้อ ไตเขิน ไตใหญ่ ณ บ้านผาแตก ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย (ตามลำดับ)
นายอาคมกล่าวว่า เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลาย มีกลุ่มชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศถึง 17 กลุ่ม กระจายอยู่เกือบทั่วทุกอำเภอ รวมทั้งพื้นที่แต่ละแห่งมีศักยภาพด้านต่างๆ ที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวจึงได้ขอรับการสนับสนุนงบจากทางจังหวัดฯ จัดงานนี้ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวให้ได้ตลอดทั้ง 12 เดือน หรือทั้งปี เพราะกิจกรรมลักษณะนี้ไม่จำกัดวัน-เวลา
นายอมร กิตติกวางทอง วัฒนธรรม จ.เชียงราย กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายคือกลุ่มผจญภัย กลุ่มที่ต้องการเข้าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตในพื้นที่โดยตรง ซึ่งเส้นทางที่ใช้จัดคาราวานวันนี้ถือเป็นเส้นทางนำร่องไปยังพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อน แม้ตามปกติกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จะมีกิจกรรมประจำปีกันมากในช่วงเดือน ส.ค.-ธ.ค. เช่น งานปีใหม่ ข้าวใหม่ ฯลฯ แต่ก็สามารถจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ได้ตลอดทั้งปี
นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ในปี 58 ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของเชียงรายเติบโตขึ้นในอัตรา 10% และช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากก็จะเพิ่มขึ้นสูงเป็น 20-30% ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีความหลากหลายมาก เช่น คนจีนชอบเที่ยววัด-ชมศิลปะทั้งที่วัดร่องขุ่น บ้านดำ ฯลฯ คนไทยมักไปสวนชา สิงห์ปาร์ค ฯลน ส่วนชาวตะวันตกและอื่นๆ จะไปชายแดน สามเหลี่ยมทองคำ ธรรมชาติ ชุมชนชาติพันธุ์ ฯลฯ ดังนั้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งปีจึงจะทำให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
นายเลิศชายกล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2560 นี้ ททท.ยังกำหนดให้ จ.เชียงราย เป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางชุมชนและความยั่งยืน ซึ่งเมื่อดูจากสิ่งที่มีอยู่แล้วถือว่าเหมาะสม และเป็นโจทย์ที่จะต้องพัฒนากันต่อไปว่าจะให้ยั่งยืนอย่างไร
ทั้งนี้ ปัจจุบันความยั่งยืนเกิดจากการที่ชุมชนมีการพัฒนากันเอง และได้รับการส่งเสริม เช่น ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน มีการจัดทัวร์ชาติพันธุ์เผ่าต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวมาดู ทำให้สามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตโดยเฉพาะด้านอาหารของหลายชนเผ่าในสถานที่เดียวกันได้อย่างคุ้มค่า, ชาวบ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง มีการจัดทัวร์ช้างมานานจนมีชื่อเสียง โดยมีการบริหารจัดการกันภายในชุมชน เป็นต้น
ด้านนายกิตติ ทิศสกุล นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าวว่า การท่องเที่ยวเชียงรายจะเน้นไปยังการท่องเที่ยวสีเขียว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง รวมทั้งรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจที่กำลังรุดหน้า ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาชุมชนรองรับแนวทางนี้แล้ว 35 ชุมชน พร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าศึกษาดูงาน สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ความงดงาม ฯลฯ ได้ตลอดทั้งปี