เชียงราย - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จับมือจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวหน้าฝน ท้าชนโลว์ซีซัน ททท.เชื่อทั้งปีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 3.09 ล้านคน โต 3% จากปี 56
วันนี้ (2 ก.ย.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมฤดูฝน (Green Season) “สีสันเชียงรายหลากหลายวัฒนธรรม” ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ที่อาคารขัวศิลป์ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ผู้คนมักจะเข้าใจกันว่าฤดูฝนเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวไม่คึกคักหรือโลว์ซีซัน ดังนั้นกลุ่มจังหวัดและชาวเชียงรายจึงร่วมกันจัดกิจกรรมนำเรียนรู้ยุคประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ ตลอดจนวิถีชีวิต และชาติพันธุ์ มาส่งเสริมเพื่อการท่องเที่ยวฤดูฝน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในแง่มุมต่างๆ ด้วยการสาธิตการแสดงในท้องที่ การท่องเที่ยวแบบเข้าพักหรือโฮมสเตย์ตลอดฤดูกาล
ด้านนายบันเทิง เครือวงศ์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชียงราย กล่าวว่า ฤดูฝนจะมีความเขียวขจี ความชุ่มชื้นของธรรมชาติ ทำให้รู้สึกสดชื่น และอากาศดีมาก จึงเหมาะต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวชมธรรมชาติและวิถีชีวิต ดังนั้นกิจกรรมที่จัดขึ้นจะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ โดยระหว่างวันที่ 3-5 กันยายนนี้จะมีกิจกรรมนำร่องชมวิถีชาติพันธุ์เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน
นายกิตติ ทิศสกุล นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าวว่า กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวฤดูฝนจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟาร์มทริป ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวชมการทำเกษตร กิจกรรมสัมผัสเชียงราย 12 เดือน 12 อารมณ์ตลอดทั้งปี
ขณะที่ น.ส.ยุรีพรรณ แสนใจยา ผช.ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันเชียงรายมีโรงแรมและห้องพัก 533 แห่ง รวม 15,000 ห้อง ซึ่งช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาประสบแผ่นดินไหว ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักไปบางส่วน โดยช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมมีอัตราเข้าพัก 50% เดือนเมษายนลดลงเหลือ 20-25% หลังเกิดแผ่นดินไหวเป็นต้นมาคงไม่ถึง 20% แต่ก็สามารถอยู่ได้ด้วยการจัดประชุมสัมมนาและกิจกรรมอื่นๆ
ซึ่งทาง ททท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนส่งเสริมการท่องเที่ยว ตั้งเป้าว่าปีนี้การท่องเที่ยวเชียงรายยังจะเติบโตร้อยละ 3 มีนักท่องเที่ยว 3.09 ล้านคน จากปี 2556 ที่มี 3 ล้านคน แยกเป็นคนไทย 2.5 ล้านคน และต่างชาติ 500,000 คน สร้างรายได้เข้าจังหวัดประมาณ 20,000 ล้านบาท