บุรีรัมย์- เกิดเหตุสลดพายุฝนกระหน่ำหนักพัดบ้านสองชั้นพังทับ ด.ญ.วัย 4 ขวบเสียชีวิตคาที่ 1 ราย สาหัส 2 ขณะวิ่งเข้าไปหลบใต้ถุนบ้าน ส่วนป้าเจ้าของบ้านและเด็กอีก 4 คนหนีรอดหวุดหวิด แม่ ด.ญ.วัย 4 ขวบโผกอดร่างไร้วิญญาณลูกสาวร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ เผยทั้งน้ำตาซื้อชุดนักเรียนเตรียมไว้ให้ลูกไปโรงเรียนวันแรก หากแลกได้ขอตายแทนลูก
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่บ้านบุข่า ม.13 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้มีบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดพังเสียหายมากกว่า 30 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านที่พังเสียหายทั้งหลัง 4 หลัง แต่ที่สร้างความเศร้าสลด คือ บ้านสองชั้นแบบยกพื้นสูง ของนางคง เรืองรัมย์ อายุ 45 ปี ที่สร้างมานานกว่า 20 ปีได้พังถล่มทั้งหลัง ขณะที่นางคง เจ้าของบ้านพร้อมลูกสาว และเด็กๆ รวม 7 คนที่วิ่งเข้ามาหลบพายุฝนอยู่ใต้ถุนบ้าน เป็นเหตุให้ ด.ญ.ศศิกานต์ สายศร หรือน้องแพร วัย 4 ขวบ 2 เดือน ถูกตู้เสื้อผ้าล้มทับบริเวณศีรษะอาการสาหัสและเสียชีวิตขณะถูกนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ยังมีเด็กถูกบ้านพังทับได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย คือ ด.ญ.สุนันทา เปรียบสม อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.นพรัตน์ กระรัมย์ อายุ 8 ขวบ ซึ่งเพื่อนบ้านได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วนแล้ว
ส่วน นางคง เจ้าของบ้าน และเด็กอีก 3 คนสามารถวิ่งหนีออกจากบ้านได้ทันทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด
ขณะที่ น.ส.สุวรรณ เรืองรัมย์ อายุ 36 ปี แม่ของ ด.ญ.ศศิกานต์ หรือน้องแพร ที่ถูกบ้านพังทับเสียชีวิต ได้โผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของลูกสาวและร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่าหลังจากขายลูกตาลที่ตลาดใน อ.กระสัง กลับมาถึงบ้านตอนเย็น ลูกสาวบอกวิ่งจะไปเรียกยายมากินข้าวที่บ้าน ระหว่างที่ลูกสาวไปตามยายเกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักและลมกระโชกแรง สักพักได้ยินเสียงดังโครมสนั่นรุนแรงและได้ยินเสียงเพื่อนบ้านตะโกนว่าบ้านของนางคง เรืองรัมย์ พี่สาวพังถล่มทั้งหลังและทับเด็กที่วิ่งเข้าไปหลบใต้ถุนบ้านหลายคน
จึงรีบวิ่งไปดูพบร่างของน้องแพร ลูกสาวอยู่ใต้เศษซากของบ้านที่พังถล่ม จากนั้นเพื่อนบ้านช่วยกันงัดซากปรักหักพังออกเพื่อนำลูกสาวส่งโรงพยาบาล แต่ลูกสาวได้เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
น.ส.สุวรรณยังบอกอีกว่า น้องแพรเป็นลูกสาวคนเล็ก จากลูกทั้งหมด 4 คน พรุ่งนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนและเป็นวันแรกที่ลูกสาวจะได้ไปโรงเรียน ซึ่งตนซื้อชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว น้องแพรก็ตื่นเต้นดีใจมากที่จะได้ไปโรงเรียนเป็นวันแรก แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจนทำให้สูญเสียลูกไป ทั้งยังบอกด้วยว่าหากย้อนเวลาได้จะไม่ให้ลูกห่างสายตาและหากแลกได้อยากเป็นคนที่อยู่ตรงนั้นและตายแทนลูก
จึงอยากฝากพ่อแม่ผู้ปกครองอย่าได้ปล่อยให้ลูกหลานไปอยู่ในที่เสี่ยงอันตราย ขณะที่เกิดพายุพัดกระหน่ำ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้