xs
xsm
sm
md
lg

สุดเศร้า! พายุแรงจัดกระหน่ำเชียงรายบ้านพัง เด็กหญิง 12 ขวบถูกคานทับดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ของเชียงราย เบื้องต้น พบบ้านเรือนช้าวบ้านพังเสียหายกว่าครึ่งพัน ทั้งยังเกิดเหตุสลดเมื่อเด็กหญิงชาวพญาเม็งราย วัย 12 ขวบ วิ่งหนีไม่ทันถูกคานหลังคาบ้านหล่นทับดับ

วันนี้ (14 พ.ค.) นายสว่าง ม่อมดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจผลกระทบหลังเกิดพายุพัดกระหน่ำในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.เชียงราย เบื้องต้น พบว่ากลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนัก และพายุลมพัดแรงพื้้นที่ ต.แม่เปา ต.เม็งราย อ.พญาเม็งราย ต.ต้า อ.ขุนตาล ต.เวียง อ.เชียงของ ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น และ ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า อ.เวียงชัย มีบ้านเรือนประชาชนถูกพายุพัดแรงจนหลังคา และฝาบ้านปลิวรวมประมาณ 500 หลังคาเรือน

โดยเฉพาะกรณีพายุพัดถล่ม อ.พญาเม็งราย ยังทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อพายุที่พัดกระหน่ำพื้นที่ ม.7 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย ได้พัดตัวบ้านของนายจือ นางเกี๊ยะ แซ่เล้า ซึ่งสร้างจากไม้มุงหลังคาด้วยหญ้าคาจนล้มทั้งหลัง และคานไม้ได้ล้มทับ ด.ญ.ใจ๋ แซ่เล้า อายุ 12 ปี ลูกสาวของนายจือ นางเกี๊ยะ ที่วิ่งหนีไม่ทันจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุทางฝ่ายปกครอง และชาวบ้านได้ช่วยกันจัดงานศพตามประเพณีแล้ว

นอกจากนี้ พบว่าในพื้นที่ ม.5 ต.แม่เปา ยังมีพายุลมพัดแรงทำให้ชาวบ้านถูกฝาบ้านทับจนบาดเจ็บอีก 3 คนด้วย ทั้งนี้ อ.พญาเม็งราย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนครั้งนี้ จำนวน 4 ตำบล บ้านเรือนเสียหายประมาณ 300 หลังคาเรือน

ด้าน นายอุดม จันทะวงศ์ กำนัน ต.แม่เปา และเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน เพราะหลายหมู่บ้านมีสภาพที่ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นลงมา บางแห่งกิ่งไม้ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า ขวางถนน ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ จนทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ พบว่าที่อาคารศูนย์เด็กเล็กบ้านกระแล ม.7 ต.แม่เปา ถูกพายุพัดหลังคาจนปลิวหลายไปทั้งแถบด้วย

ด้านกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 37 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.เวียงชัย ได้ร่วมกับปลัด อ.เวียงชัย นำกำลังทหาร อาสารักษาดินแดน (อส.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ ม.3 ต.ผางาม ซึ่งมีบ้านเรือนหลายหลังถูกพายุพัดพาจนฝาบ้าน และหลังคาเสียหายเช่นกัน

ขณะที่ช่วงกลางวันที่ 14 พ.ค.พบว่า สภาพอากาศส่วนใหญ่สดใสโดยไมมีเมฆหมอกหนาทึบ แต่ประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นถึงกลางคืนในช่วงนี้ต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น