สลด! พายุฤดูร้อนมาตามนัดถล่มหลาย จว. ต้นตาลโค่นทับยายสุโขทัยดับ

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - พายุฤดูร้อน และลูกเห็บมาตามนัดพัดถล่มหลายจังหวัดในภาคเหนือ ทำต้นตาลสูง 20 เมตร โค่นทับยายชาวสุโขทัยดับ ขณะที่เสาไฟฟ้าแรงสูงลำปาง โค่นระเนระนาดกว่า 10 ต้น ด้าน 3 ตำบลเมืองแพร่ โดนลมกระหน่ำหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อน บางหลังบ้านพังครืน

รายงานข่าวแจ้งว่า พายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายจังหวัดในภาคเหนือช่วงค่ำที่ผ่ามา (30 เม.ย.) ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยในพื้นที่ของ จ.สุโขทัย ทำให้มีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ที่มีลมพายุพัดกระหน่ำรุนแรงจนทำให้ต้นตาลขนาดใหญ่ อายุกว่า 50 ปี สูง 20 เมตร โค่นทับร่างของ นางจำปี อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 123/2 หมู่ 2 ต.บ้านกล้วย ซึ่งกำลังก้มเก็บข้าวของอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้านใกล้กับต้นตาลพอดี

ทั้งนี้ ญาติที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันนำร่างออกมา แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลสุโขทัย โดยแพทย์ได้ปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่นางจำปี ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนพื้นที่จังหวัดลำปาง ก็เช่นกัน ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม และมีฝนตก ลมกระโชกแรงในพื้นที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ทำให้ถนนสายพหลโยธินลำปาง-ตาก ขาขึ้น ต้นไม้ริมถนนโค่นล้มขวางถนนมากว่า 20 ต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยวังพร้าว อ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงลำปาง ต้องเร่งเข้าดำเนินการตัดต้นไม้ขวางถนนออกเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนทั้งคืน

ขณะที่บริเวณถนนสายลำปาง-ตาก กม.584-585 บ้านวังพร้าว ต.วังพร้าว อ.เกาะคา มีเสาไฟฟ้า ของการไฟฟ้า เสาไฟฟ้าแรงสูง 220 kv ถูกลมพายุพัดล้มหักระเนระนาดกว่า 10 ต้น สายไฟขาดหลายจุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.เกาะคา จ.ลำปาง ต้องตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อซ่อมแซม จนหลายหมู่บ้านไฟดับทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรชาวบ้านที่บ้านวังพร้าว และโรงสีข้าวยังถูกลมพัดหลังคาสังกะสีปลิวว่อน บางส่วนปลิวไปติดค้างบนสายไฟฟ้าแรงสูง

ด้านจังหวัดแพร่ ก็เกิดพายุฤดูร้อน ลูกเห็บ และฝนตกหนัก ทำให้บ้านเรือนชาวบ้าน พืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สินราชการเสียหายยับ 3 ตำบล ได้แก่ ต.น้ำชำ ต.ห้วยม้า และ ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ แรงลมทำให้บ้านเรือนประชาชนหลังคาเปิดออกทั้งหมด บางแห่งอาคารพังลงมาทั้งหลังทับรถยนต์ที่จอดไว้ด้ ต้นไม้หักโค่นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นสวนป่าไม้สัก และสวนผลไม้ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

หลังเกิดเหตุ นายทรงฤทธิ์ แก้วสุทธิ นายอำเภอเมืองแพร่ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกพายุกระหน่ำ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกสำรวจ และให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน เบื้องต้น มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายหนัก จำนวน 140 หลังคาเรือน พืชผลทางการเกษตร สวนป่าไม้สักที่มีมูลค่าสูงหักโค่น สวนผลไม้รวมกว่า 100 ไร่ สิ่งสาธารณูปโภค เสาไฟฟ้าหักโค่น รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ ทางอำเภอเมืองแพร่ ได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมแล้ว

นายทรงฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ (1 พ.ค.) จะออกสำรวจอย่างละเอียดประเมินความเสียหายเพื่อขอรับงบประมาณในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าต้องใช้งบประมาณมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปอย่างแน่นอน

“การเกิดพายุฤดูร้อนครั้งนี้รุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมาจากความแห้งแล้งอย่างหนัก ประกอบกับพื้นที่ป่าลดลงจนขาดความสมดุล”