ระนาว! พายุถล่มหลายจังหวัด กีฬาชาวเขาลำปางกระเจิง-ร.ร.พิจิตร พังทั้งหลัง (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ฤทธิ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายจังหวัดในภาคเหนือ ทำทรัพย์สินทางราชการ-ชาวบ้านเสียหายเพียบ ที่ลำปาง คนเชียร์-นักกีฬาชาวเขา 14 ชนเผ่า ต้องหนีกันกระเจิงหลังพิธีเปิดได้ไม่นาน ขณะที่พิจิตรแรงลมพัดอาคารอเนกประสงค์ถล่มทั้งหลัง โชคดี ผอ.สั่งครู-ภารโรงย้ายรถนับ 10 คันออกก่อน



รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ว่า จะเกิดพายุฤดูร้อนในห้วงวันที่ 18 เม.ย.- 1 พ.ค.ใน 37 จังหวัดทั้งภาคอีสาน เหนือ และตะวันออก นั้น ในส่วนของภาคเหนือเย็นวานนี้ (28 เม.ย.) มีพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายจังหวัด สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินราชการ บ้านเรือนชาวบ้านเป็นวงกว้าง

โดยที่ลำปางซึ่งได้เปิดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 28 ปี 2559 “นครลำปางเกมส์”ที่สนามกีฬากลางจังหวัดลำปาง มีอธิบดีกรมพละศึกษาเป็นประธานเปิดงาน, นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางกล่าวต้อนรับ ท่ามกลางนักกีฬาจาก 20 จังหวัด รวม 14 ชนเผ่ามาร่วมการแข่งขัน หลังพิธีเปิดและเริ่มการแข่งขันได้ไม่นาน ปรากฏว่าได้เกิดพายุลมฝนกระโชกแรงทำให้ข้าวของต่างๆ ในสนามล้มระเนระนาด นักกีฬาและประชาชนที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างวิ่งหนีลงมาด้านล่างกันอย่างโกลาหล และไม่นานนักไฟได้ดับทั่วเมืองลำปาง ตั้งแต่เวลา 19.15-22.00 น.เศษ กิจกรรมต่างๆ ที่เตรียมไว้ ต้องยุติไปโดยปริยาย เวทีโต๊ะอาหารถูกลมพัดกระเจิงทั้งหมด

ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดความเสียหายหลายจุดโดยเฉพาะต้นไม้หักทับรถ ทับบ้าน ขวางถนนหลายแห่ง เสาไฟฟ้าหักโค่น ที่อาคารผู้โดยสารสานมบินลำปางหลังคาปลิวหายทำให้น้ำฝนตกลงมาเจิ่งนองในอาคาร ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หักโค่นกีดขวางการจราจร แต่เนื่องจากกระแสไฟฟ้าดับ และต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่มายก คืนที่ผ่านมาจึงทำได้เพียงทำเครื่องหมายเตือนไว้เท่านั้น

เย็นวันเดียวกัน ที่จังหวัดตาก ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มที่บ้านห้วยเหลือง หมู่ 5 ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก และมีลูกเห็บขนาดค่อนข้างใหญ่ตกลงมาจำนวนมาก ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เร่งสำรวจผลกระทบ และดูแลชาวบ้านแล้ว

ส่วนที่ จ.พิจิตร นายทรงกิต จันทรมณี ผู้อำนวยการโรงเรียนสระหลวงพิทยาคม เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะที่โรงเรียนสระหลวงพิทยาคม ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งริมบึงสีไฟ ทำให้อาคารอเนกประสงค์ ซึ่งมีโครงหลังคาสูงเท่ากับตึก 3 ชั้นพังถล่มลงมาทั้งหลัง

นายทรงกิตเล่าว่า ตนยังทำงานอยู่บนอาคารเรียนได้ยินเสียงลมพายุพัดอาคารทรงไทยซึ่งเป็นอาคารสูงโปร่งสร้างด้วยเหล็กมุงด้วยแผ่นสังกะสีเมทัลชีต เมื่อโดนแรงลมก็มีเสียงอาคารดังและโยกไปมาตามแรงลม จึงเชื่อว่าอาคารน่าจะพังถล่มจึงรีบสั่งการให้ครูและคนงานภารโรงรีบเคลื่อนย้ายรถนับสิบคันที่จอดอยู่ในอาคารหลังดังกล่าวออกโดยด่วน จากนั้นอีกแค่ 10 นาที แรงลมก็พัดอาคารอเนกประสงค์มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทพังครืนลงมาต่อหน้าต่อตา

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรวัดและบ้านเรือนราษฎรหลายแห่งก็ได้รับความเสียหายจากลมพายุฤดูร้อน รวมพื้นที่ 7 อำเภอ 58 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง ได้แก่ อ.โพธิ์ประทับช้าง 29 หลัง, อ.โพทะเล 13 หลัง, อ.ดงเจริญ 7 หลัง, อ.บึงนาราง 3 หลัง, อ.สามง่าม 3 หลัง, อ.เมือง 2 หลัง โรงเรียน 1 แห่ง และ อ.ทับคล้อ 1 หลัง