ตราด - นักโทษชายคดีชิงทรัพย์หลบหนีขณะนำขึ้นรถกลับเรือนจำ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเกือบครึ่งร้อยตามล่า ผู้การตำรวจเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบ เผยนักโทษหนีเป็นครั้งที่ 2 ล่าสุด ยังไร้วี่แวว
เมื่อเวลา 16.25 น. วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ศาลจังหวัดตราด เกิดเหตุนักโทษหลบหนีขณะกำลังขึ้นรถเรือนจำ ทางด้านหลังของศาลจังหวัดตราด แล้ววิ่งเข้าไปในป่าหน้าศาลจังหวัดตราด
หลังจากเกิดเหตุ ด.ต.โอกาส บุญสร้าง ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในศาลจังหวัดตราด ได้แจ้งไปยัง สภ.เมืองตราด เพื่อส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกค้นหา รวมทั้งแจ้งไปยัง พล.ต.ต.นพรัตน์ รินทพล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ทราบ พร้อมทั้งประสานกำลังตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดตราด สภ.เมืองตราด เจ้าหน้าที่อาสาอำเภอเมืองตราด เรือนจำตราด และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราด ร่วมค้นหากว่า 40 นาย
โดยพบว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีเป็นผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในท้องที่อำเภอเขาสมิง คือ นายสมบัติ ไพรวงศ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.9 ต.คอลงใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ขณะหลบหนียังสวมเสื้อนักโทษเรือนจำตราด มีห่วงโซ่ตรวนติดขอเท้าทั้ง 2 ขาไว้ แต่โซ่ขาดออก รูปร่างสูงใหญ่ สีผิวน้ำตาลแดง สูง 180 เซนติเมตร
จุดแรกพบร่องรอยการล้มหนีเป็นทางยาวเข้าไปป่าเสม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ชุดแรกเดินตามทางที่นักโทษหลบหนีเข้าไปในป่า ส่วนอีก 2 ชุด ได้ล้อมซ้ายขวา แล้วค่อยๆบีบพื้นที่ให้แคบลง ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจชุดสุดท้ายได้ใช้โดรนขึ้นบินเพื่อหาเส้นทางที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง
ด.ต.โอกาส กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมบัติ กำลังจะขึ้นรถออกจากศาลจังหวัดตราด โดยมีนักโทษที่เดินทยอยขึ้นรถประมาณ 10 คน จังหวะนั้นตนเองได้เดินไปปิดไฟ ทำให้นายสมบัติ ได้ใช้จังหวะนี้วิ่งหลบหนีออกไปจากด้านหลังศาลไปยังป่าหน้าศาลจังหวัดตราด ซึ่งมีความยาวประมาณ 200 เมตร โดยที่โซ่ตรวนหลุดออกมาเหลือเพียงห่วงบริเวณข้อเท้าทั้งสอง 2 ติดตัวไป ซึ่งตนเอ งและเจ้าหน้าที่ศาลได้พยายามวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน
พล.ต.ต.นพรัตน์ กล่าวว่า นายสมบัติ ไพรวงศ์ เป็นนักโทษคดีชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ แต่นายสมบัติ ปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือกระทำ ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่นำตัวมาส่งฟ้องศาล ก่อนที่จะหลบหนีขณะนำตัวขึ้นรถ
หลังจากนี้ จะตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อเหตุการณ์ที่ที่เกิดขึ้นว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากเมื่อปีที่แล้ว มีนักโทษชาวโรฮีนจาหลบหนีในลักษณะนี้มาแล้ว เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2558 แต่ก็สามารถจับกุมได้ ซึ่งจากนี้ไปจะต้องเข้มงวด และปรับปรุงการทำหน้างานของเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดปัญหานี้
อย่างไรตาม นายสมบัติ ไพรวงศ์ มีภรรยาเป็นชาวกัมพูชาที่พักอาศัยอยู่ในคลองใหญ่ โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตามแนวชายแดนเข้มงวด และสอดส่องการเข้าออกเพื่อป้องกันนายสมบัติ ไพรวงศ์ หนีออกนอกประเทศ ซึ่งล่าสุด ยังไม่พบตัวนายสมบัติ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่บริเวณที่คาดว่า นายสมบัติ ยังคงซ่อนตัวอยู่