สุรินทร์ - หมู่บ้านช้างสุรินทร์แล้งวิกฤตหนักสุดในรอบ 30 ปี แหล่งน้ำแห้งขอด ช้าง 250 เชือกขาดแคลนน้ำ ควาญช้างต้องนำรถไปบรรทุกน้ำที่อยู่ห่างไกลมาให้ช้างได้กิน-อาบคลายร้อน
วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งของ จ.สุรินทร์ได้ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างสร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ จ.สุรินทร์ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 5 อำเภอจากทั้งหมด 17 อำเภอ มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 37,103 ครัวเรือน 149,877 คน คิดเป็นร้อยละ 45.14 ของครัวเรือนทั้งจังหวัด ขณะที่แหล่งน้ำต่างๆ แห้งขอด โดยเฉพาะน้ำดื่มประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการซื้อจากพ่อค้าบรรทุกน้ำเร่ขาย เนื่องจากความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐไม่ทั่วถึง
นอกจากนี้ ภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อช้างเลี้ยงกว่า 250 เชือกในหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นช้างในความดูแลของโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และโครงการคชอาณาจักร ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขาดแคลนน้ำกินและน้ำอาบอย่างหนัก
ประกอบกับอากาศช่วงกลางวันร้อนจัด ทำให้บรรดาควาญช้างต้องพาช้างไปหลบตามร่มไม้ใหญ่ และอยู่ใกล้แหล่งน้ำบาดาล น้ำประปาในศูนย์คชศึกษา ซึ่งในขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลน้อยไม่เพียงพอ ควาญช้างและโครงการคชอาณาจักรต้องนำรถไปบรรทุกน้ำจากลำน้ำชี ที่อยู่ห่างไกลออกไป 4 กิโลเมตร มาใส่ในอ่างท่อซีเมนต์ให้ช้างได้กินและอาบคลายร้อน ซึ่งอากาศร้อนระอุทำให้ช้างมีความต้องการน้ำสูงตามไปด้วย
ขณะเดียวกันแหล่งน้ำสำคัญที่รถบรรทุกน้ำไปสูบมานั้นหายากและเริ่มแห้งขอดเหลือน้อยลงทุกขณะ โดยเฉพาะที่วังทะลุ จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำมูลกับน้ำชี พบว่าน้ำเริ่มแห้งขอด เหลือน้ำขังอยู่บ้างในบางจุดเท่านั้น ถือว่าเป็นสถานการณ์ภัยแล้งหนักสุดในรอบ 30 ปี
นายชัย อินทร์สำราญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/5 ม.7 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ควาญช้าง กล่าวว่า หน้าแล้งปีนี้คนขาดน้ำดื่มน้ำใช้ และไม่มีน้ำให้ช้างกิน แหล่งน้ำที่มีอยู่ก็แห้งขอด ซ้ำอากาศร้อนจัดทำให้ช้างหงุดหงิดง่าย ทั้งหิวทั้งร้อนต้องคลายร้อนด้วยการอาบน้ำ หลบร้อนตามร่มใต้ต้นไม้ใหญ่และนำโคลนมาพอกตัว
ในแต่ละวันช้างต้องกินน้ำเป็นโอ่งต่อหนึ่งเชือก ซึ่งทุกวันนี้หาน้ำมาเลี้ยงช้างยากลำบากและเดือดร้อนมาก รวมถึงน้ำสำหรับปลูกหญ้า ทำให้ช้างขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร นับว่าปีนี้แล้งที่สุดกว่าทุกปีที่ผ่านมา
