xs
xsm
sm
md
lg

ลุยตรวจแหล่งเที่ยวแอดเวนเจอร์เชียงใหม่ ชี้รถรางโคสเตอร์ขอ อปท.แล้ว-ซิปไลน์เถื่อนอื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ลุยตรวจแหล่งท่องเที่ยวแอดเวนเจอร์-รถรางโคสเตอร์แห่งเดียวในเชียงใหม่ที่ทดลองให้บริการแล้วเกิดอุบัติเหตุชนกัน 3 คันรวด หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องเล่น 58 บังคับใช้วันแรก เบื้องต้นพบยื่นขอ อปท.แล้ว-อุปกรณ์ได้มาตรฐาน แต่ซิปไลน์หลายแห่งไร้ใบอนุญาต

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการรักษาความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกตรวจสถานที่ท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ รถรางโคสเตอร์ บริเวณโป่งแยงซิปไลน์แอนด์จังเกิ้ล โคสเตอร์ บ้านหมู่ 2 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ วานนี้ (25 เม.ย.) หลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องเล่น 2558 เป็นวันแรก

โดยคณะกรรมการฯ ได้มีการตรวจสอบสถานที่ออกจากจุดสตาร์ท การติดตั้งป้ายเตือนในการเล่นและคำแนะนำ รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้คอยตรวจสอบการเล่นตลอดเส้นทางกว่า 800 เมตร และทดลองการเล่นตลอดเส้นทาง เบื้องต้นพบว่าอุปกรณ์ได้มาตรฐาน และมีเอกสารการขออนุญาตจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

แต่ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุรถรางชนท้ายกัน 3 คันช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ 2 ราย สาเหตุมาจากการสื่อสารระหว่างผู้เล่นกับพนักงานเข้าใจไม่ตรงกัน จึงมีการแก้ไขปรับปรุงโดยมีการเขียนป้ายข้อความขนาดใหญ่ มองเห็นข้อห้ามต่างๆ ทั้งห้ามจอดรถระหว่างทาง ห้ามนำกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ หรือของมีค่าติดตัวไปด้วยได้ชัดเจน และเพิ่มระยะห่างในการปล่อยจากเดิม 25 เมตร เป็น 40 เมตร ป้องกันอุบัติเหตุเครื่องเล่นชนกัน และเพิ่มเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวชอบเบรกรถเพื่อคอยแจ้งเตือน ทั้งนี้เชื่อว่าอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ มีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

ร.ต.ท.หญิง ณัฐวจี จักรสาร รองสารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 เชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เครื่องเล่นรถรางมีเพียงแห่งเดียว มีใบอนุญาตถูกต้อง

แต่เครื่องเล่นแบบแอดเวนเจอร์ประเภทซิปไลน์หรือโหนสลิงที่มีมากเกือบ 20 แห่ง กระจายในหลายอำเภอ หลายแห่งยังไม่มีใบอนุญาต ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานฯ ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิในการครอบครอง จึงทำให้ไม่สามารถออกใบอนุญาตได้แม้ว่าจะมีการยื่นขอแล้วก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่กำกับดูแลในพื้นที่ต้องไปพิจารณากันเองว่าจะอนุญาตหรือไม่











กำลังโหลดความคิดเห็น