บุรีรัมย์ - ผบ.มทบ.26 บุรีรัมย์นำกำลังทหารสนธิหลายฝ่ายกว่า 100 นายเข้าตรวจสอบขอคืนพื้นที่และเอาผิดนายทุนผู้มีอิทธิพล 11 ราย บุกรุกครอบครองที่สาธารณะทุ่งดอนแต้ว ทั้งสร้างที่อยู่อาศัย ทำธุรกิจ เรื้อรังมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันเหลือพื้นที่ไม่ถึง 2,000 ไร่จากทั้งหมดกว่า 15,000 ไร่ บางรายถูกศาลสั่งให้ออกจากพื้นที่แล้วแต่ยังเพิกเฉย
วันนี้ (25 เม.ย.) พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 (ผบ.มทบ.26) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จ.บุรีรัมย์ พร้อม นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอนางรอง, พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผกก.สภ.นางรอง, นายมาโนช ตันเจริญ นายเทศมนตรีเมืองนางรอง, นายกิจจา เสาโร นายก อบต.นางรอง ได้นำกำลังทหารจาก มทบ.26 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง ฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง
หลังมีประชาชนร้องเรียนว่ามีกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพล 11 รายบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสาธารณะทุ่งดอนแต้วในเขต อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มากกว่า 340 ไร่ เพื่อทำประโยชน์ส่วนตัว ทั้งสร้างที่พักอาศัย โกดังเก็บของ โรงงานผลิตปูนผสมเสร็จ อาคารแถว อาคารพาณิชย์ และทำธุรกิจอีกหลายประเภท
จากการเข้าตรวจสอบก็พบว่ามีการบุกรุกครอบครอบพื้นที่สาธารณะทุ่งดอนแต้วดังกล่าวจริง โดยส่วนใหญ่อ้างว่าเป็นที่มรดกได้รับตกทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่ไม่มีเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
ในจำนวนนี้มีบางรายที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และศาลได้มีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ที่บุกรุกแล้วตั้งแต่ปี 2556 แต่ผู้บุกรุกยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาล ซึ่งกรณีดังกล่าวจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยเบื้องต้นจะเรียกทั้ง 11 รายไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นางรอง จากนั้นจะให้ท้องที่ที่รับผิดชอบนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานบุกรุกที่สาธารณะ และดำเนินการผลักดัน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่สาธารณะดังกล่าวต่อไป
พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ระบุภายหลังนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ว่า เดิมป่าสาธารณะทุ่งดอนแต้วดังกล่าวมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 15,000 ไร่ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมืองนางรอง, อบต.นางรอง, อบต.ลำไทรโยง และ อบต.หนองโบสถ์ ปัจจุบันได้ถูกกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพล และประชาชนทั่วไปเข้าไปบุกรุกถือครองทำประโยชน์ส่วนตัว จนปัจจุบันเหลือพื้นที่ป่าเพียงประมาณ 2,000 ไร่
ดังนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการขอคืนพื้นที่และตรวจสอบเอาผิดผู้บุกรุก ซึ่งเบื้องต้นจะดำเนินการขอคืนจากกลุ่มนายทุนก่อน จากนั้นจะเดินหน้าขอคืนจากประชาชนเพราะปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยยืนยันว่าดำเนินการต่อผู้บุกรุกทุกรายโดยไม่มีการละเว้นเพราะถือเป็นสมบัติของส่วนรวม