พะเยา - พบหนุ่มมือมีดจ้วงแทงครูสาวหน้าตาดีเมืองดอกคำใต้จนร่างพรุนเสียชีวิตคาที่ กลายเป็นศพขึ้นอืดใต้ต้นจามจุรี คาดแขวนคอตายหนีความผิด
วันนี้ (25 เม.ย.) พ.ต.ท.ทวีรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ รับแจ้งว่า มีคนพบศพนอนตายใต้ต้นฉำฉาข้างสระน้ำกลางทุ่งนาบ้านบุญเกิด หมู่ 9 ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน จิตบุญ ผกก.สภ.ดอกคำใต้ ชุดกู้ภัย แพทย์นิติเวช รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของชายคนหนึ่งนอนหงายตายขึ้นอึดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ สภาพศพสวมสวมเสื้อยึดแขนยาวสีฟ้า สวมกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ จากการตรวจที่เกิดเหตุพบบนกิ่่งต้นจามจุรี (ฉำฉา) มีเชือกไนลอนที่มีรอยขาดห้อยอยู่ คาดว่าเป็นเชื่อกที่ผู้ตายได้ใช้มัดคอตัวเองจนเสียชีวิต
จากการตรวจชันสูตรพลิกศพทราบว่า ผู้ตายคือ นายฉลอง เสนรังสี อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 10 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดปอกผลไม้บุกแทง นางสายพิน เมืองชื่น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 10 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เพื่อนสาวคนสนิทรวม 22 แผล จนเสียชีวิตคาบ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เมื่อ 23 เม.ย.59 เวลา10.40 น.ที่ผ่านมา
หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีก่อนมีคนมาพบเป็บศพผูกคอตายดังกล่าว ซึ่งแพทย์ระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วราว 48 ชั่วโมง
สำหรับ นางสายพิน เมืองชื่น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 10 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ ที่ถูกแทงเสียชีวิต 22 แผลดังกล่าว จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นางสายพิน เป็นครูผู้ดูแลเด็กพิการศูนย์สามวัย ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ เป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีผู้ชายมาหลงรัก และหมายปองอยู่หลายคน ก่อนเกิดเหตุ นางสายพิน ได้ไปแวะเที่ยวพูดคุยกับเพื่อนบ้าน นายพิทักษ์(ขอสงวนนาสกุล) เจ้าของบ้านเกิดเหตุ
ขณะพูดคุยกันอยู่ นายฉลอง เสนรังสี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับบ้าน นางสายพิน และหลงรักชอบพอนางสายพิน มานานแล้วเกิดความหึงหวง จึงได้วางแผนโดยลักลอบเข้าไปเผาเศษวัชพืชข้างบ้านนายพิทักษ์ เมื่อนายพิทักษ์ เห็นมีไฟไหม้ขึ้นข้างบ้านเกรงจะลุกลามมาที่บ้านตัวเอง จึงได้ออกจากห้องไปดับไฟข้างบ้าน จังหวะนั้นเอง นายฉลอง ได้เข้าไปในบ้านเกิดเหตุ พร้อมต่อว่า นางสายพิน ด้วยถ้อยคำต่างๆ นานา ก่อนบันดาลโทสะใช้มีดปอกผลไม้จ้วงแทงนางสายพิน เป็นเหตุให้นางสายพิน เสียชีวิตคาที่
จากนั้น นายฉลอง ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากบ้านไป จนกระทั่งมีคนมาพบศพนอนตายอยู่ในเขตตำบลบุญเกิด ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุราว 20 กิโลเมตรดังกล่าว