กำแพงเพชร - วัยรุ่นเมืองกล้วยไข่ดุจริง พกปืนเที่ยวริมปิงกลางดึก แถมก่อเหตุยิงวัยโจ๋ต่างกลุ่มทั้งชาย-หญิง เจ็บถึง 4 ร้ายซ้อน ตำรวจออกตระเวนล่าทั้งคืนเจอเด็กวัย 15 รถล้มพร้อมปืนไทยประดิษฐ์ อ้างเป็นของเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกันรวม 8 คน ทำเลียนแบบจากเน็ต เจ้าของเอามายิงคู่อริแต่ยิงไม่ออก เพื่อนอีก 3 จึงยิงแทนแล้วหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชรได้รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงจำนวน 4 ราย บริเวณถนนกำแพงเพชร ใกล้เชิงสะพานข้ามแม่น้ำปิง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อเวลา 22.30 น.เศษที่ผ่านมา (20 เม.ย.) จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่เลยสวนอาหารแห่งหนึ่ง พบผู้บาดเจ็บเป็นเยาวชนชาย อายุ 17 ปี 1ราย, อายุ 16 ปี 2 ราย และเป็นเยาวชนหญิง อายุ 16 ปีอีก 1 ราย ถูกยิงตามร่างกาย เช่น แขน ขา ถูกนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลกำแพงเพชร โดยมีเพื่อนกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บตามไปเฝ้าดูอาการ
ต่อมา พ.ต.ท.ปริญญา ปานท้วม สวป.สภ.เมืองกำแพงเพชร, ร.ต.ท.ธวัช อิสระธานันท์ รอง สวป.ฯ, ร.ต.ท.ชาลี ขาวจุ้ย, ร.ต.ท.สาเรต เมืองเจริญ รอง สวป. และชุดสายตรวจ ได้ออกติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไปพบกับเยาวชนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ทะเบียน 721 กำแพงเพชร เสียหลักล้มอยู่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 6 ต.สระแก้ว จึงเข้าช่วยเหลือ พร้อมกับขอตรวจค้น
พบว่าผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี 2 ราย ชื่อ ด.ช.เอ และบี (นามสมมติ) บ้านอยู่ หมู่ 6 ต.สระแก้ว อ.เมืองกำแพงเพชร บริเวณที่รถจักรยานยนต์ล้มอยู่พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ทำจากท่อแป๊ป และมีกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ภายในลำกล้องจำนวน 1นัด จึงนำตัวมาสอบสวนที่ศูนย์ปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร (ป้อมวัดบาง)
เบื้องต้น ด.ช.เอ และบี ให้การว่าอาวุธปืนไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นอาวุธของนายม่อน (ไม่ทราบชื่อจริง) ที่ดูตัวอย่างจากอินเทอร์เน็ต โดยเห็นนายม่อนพกติดเอวมาเที่ยวบริเวณริมแม่น้ำปิง พร้อมกับเพื่อน 8 คน ซ้อนรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน และได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์กระบอกนี้ยิงใส่กลุ่มคู่อริแต่ยิงไม่ออก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นถูกเพื่อนอีก 3 คนใช้อาวุธปืนยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวแล้วพากันหลบหนีไป แต่รถของตนมาเสียหลักล้มลงตรงจุดที่มีปืนของนายม่อนตกพอดี
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ผู้ปกครองของผู้ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความ และแจ้งผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 2 รายนี้มาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมจะติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
