พิษณุโลก - จนท.ป่าไม้ ร่วมกับทหารพราน 32 -35 ทภ.3 เปิดยุทธการ “ฉก.บุ่งผำ” เจรจาขอคืนผืนป่าต้นน้ำรอยต่อชาติตระการ พิษณุโลก-นาแห้ว เมืองเลย ล่าสุดได้ผืนป่าคืน 1,000 ไร่แล้ว จากเป้าหมาย 5 พันไร่
วันนี้ (20 เม.ย.) นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, นายสมบูรณ์ จำปาอูป ผอ.ส่วนป้องกันฯ, ร.อ.ศักดิ์ชัย ดวงอำไพร หน.ชุดทหารพราน กรมฯ 32 และหัวหน้าชุดทหารพราน กรมฯ 35, อช.น้ำตกชาติตระการ, ตำรวจ สภ.ชาติตระการ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. เจ้าหน้าที่โครงการภูขัดฯ (พพม.) กอ.รมน.จว.พล. ผสานกำลังเปิดยุทธการ “ขอคืนพื้นที่บริเวณรอยต่อ จ.เลย-อ.ชาติตระการ จ.พล. หรือ ฉก.บุ่งผำ” ประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่งเป็นต้นน้ำไหลลงสู่เขื่อนแควน้อย และน้ำเหียง จ.เลย
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจาชาวบ้านประมาณ 300 ครอบครัวที่ทำกินบริเวณป่าต้นน้ำ รอยต่อเลย-พิษณุโลก ซึ่งหลายรายหลังรับฟังนโยบายจากหน่วยงานป่าไม้-กองทัพภาคที่ 3 ที่วัดนาผักก้าม อ.นาแห้ว จ.เลย แล้วยินดีส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับรัฐรายละประมาณ 10 ไร่ จำนวน 99 ราย
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผู้ที่ทำกินบริเวณรอยต่อ จ.เลย กับพิษณุโลก ส่วนใหญ่ปลูกสับปะรดเกือบทั้งภูเขาอาจเรียกว่าภูเขาหัวโล้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากภาพถ่ายพิกัดทางอากาศพบว่า เป็นผู้ทำกินหลังปี 45 ก็จะเข้าสู่โหมดการเจรจาขอคืนพื้นที่
โดยในกลุ่มผู้ยากไร้ หากยินดีหรือยอมรับเงื่อนไขก็จะได้ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ลำไย สับปะรด จำนวน 50% แต่จะต้องปลูกป่า (ไม้ยืนต้น) ตามที่ตกลงอีกจำนวน 50% ของพื้นที่ แต่สิทธิในพื้นที่ยังเป็นของรัฐ ไม่ว่าระยะยาวนานเท่าใด ถือว่าภาครัฐได้พื้นที่คืนโดยไม่ต้องจับกุม ส่วนประชาชนก็ยังมีพื้นที่เดิมทำกิน แต่ในระยะยาวจะมีป่าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การเปิดยุทธการ “ฉก.บุ่งผำ” หากประสบความสำเร็จก็จะใช้เป็นโมเดลขยายไปยังป่าหัวโล้นอื่นๆ ต่อไป ซึ่งเป้าหมายแรกต้องการป่าคืนประมาณ 5,000 ไร่ ล่าสุดได้พื้นที่ 1,000 ไร่แล้ว