ราชบุรี - มีชาวบ้านในการเคหะบ้านเอื้ออาทร ราชบุรี ร้องทหารให้ตรวจสอบการเงินของชุมชนการเคหะฯ หลังมีการเรียกเก็บเงินชาวบ้านหลังคาละ 100 บาท แต่ไม่มีการชี้แจงว่าได้นำเงินไปทำอะไรบ้าง รวมทั้งชาวบ้านไม่พอใจในระเบียบข้อบังคับของนิติบุคคลฯ
วันนี้ (19 เม.ย.) พ.ท.เดชภวิศร์ อินทร์แหยม ผู้บังคับกองพันพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่การเคหะแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทร ราชบุรี (เจดีย์หัก) และตัวแทนชาวบ้านในชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทร ราชบุรี (เจดีย์หัก) ตั้งอยู่ ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี มาร่วมพูดคุยเพื่อหาข้อตกลงที่ห้องประชุมเล็กภายในค่ายศรีสุริยวงศ์ หลังมีชาวบ้านในการเคหะไปร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบเรื่องการเงิน และระเบียบข้อบังคับของนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทร ราชบุรี (เจดีย์หัก) หลังมีการเรียกเก็บเงินชาวบ้าน หลังคาละ 100 บาท แต่ไม่มีการชี้แจงว่าได้นำเงินไปทำอะไรบ้าง รวมทั้งชาวบ้านไม่พอใจในระเบียบข้อบังคับของนิติบุคคลฯ
โดย พ.ท.เดชภวิศร์ อินทร์แหยม ผู้บังคับกองพัน พัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ ได้ให้ทางฝ่ายนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทร ราชบุรี (เจดีย์หัก) ได้นำเอกสารทางการเงินทั้งเรื่องรายรับ และรายจ่ายมาชี้แจง และทำการตรวจสอบก่อนจะสรุปผลว่า มีการชี้แจงเรื่องรายรับรายจ่ายได้หรือไม่ จากนั้นจะเชิญชาวบ้านที่อาศัยในเคหะชุมชนมาประชุมเพื่อชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้ต้องรอผลการตรวจสอบเรื่องการเงินของนิติบุคคลฯ ก่อน
นายไพโรจน์ ภูฆัง ชาวบ้านที่ได้เข้าร้องเรียนกับทาง คสช.ได้กล่าวว่า ชาวบ้านอยากรู้เรื่องของการเก็บเงินบ้านละ 100 บาท ทุกเดือน และเก็บค่าร้านค้า รวมทั้งรถที่เข้ามาขายของภายในเคหะฯ ว่าได้เดือนละเท่าไหร่ และนำเงินไปทำอะไร ซึ่งเมื่อไปสอบถามทางฝ่ายนิติบุคคลฯ ก็ไม่มีการชี้แจง และยังให้ชาวบ้านลงชื่อซึ่งต้องมีไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของเคหะฯ ซึ่งมีกว่า 1,200 หลังถึงจะมีการมาสอบถามได้ ทั้งการเลือกตั้งของนิติบุคคลฯ ที่ผ่านมา คะแนนเสียงก็ได้เพียงกว่า 100 คะแนน แล้วทำไมยังจัดตั้งกลุ่มนิติบุคคลฯ มาบริหารงานได้
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งกฎระเบียบ ข้อบังคับโดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจของชาวบ้าน ถือเป็นการมัดมือชก ซึ่งชาวบ้านไปร้องเรียนมาหลายแห่งแล้ว รวมทั้ง คสช.ด้วย และชาวบ้านก็ยังถูกข่มขู่ด้วย ซึ่งชาวบ้านได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมือง แล้ว
ด้าน นายอธิวัตน์ พรมบังเกิด อดีตกรรมการหมู่บ้านเคหะชุมชนเอื้ออาทรราชบุรี กล่าวว่า อยากให้มีการตรวจสอบรายรับ และรายจ่ายของนิติบุคคลว่าได้เงินอะไรมาบ้าง และนำเงินไปทำอะไร ซึ่งชาวบ้านก็พยายามไปสอบถามหลายครั้ง ทางนิติบุคคลฯ ก็ชี้แจงไม่ได้ และไม่มีบิลใบเสร็จ ไม่มีหลักฐานในการรับจ่าย จึงต้องรวมตัวกันมาร้อง คสช. และทุกวันนี้ก็ยังคงเก็บเงินชาวบ้านอยู่ เพราะถ้าไม่จ่ายก็จะโดนฟ้องร้อง
จึงอยากให้มีการผ่อนผันให้แก่ชาวบ้านอีกกว่า 700 หลังคาเรือนที่ยังไม่ได้จ่าย โดยทางหน่วยงานทหารได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย รวมทั้งตรวจสอบเอกสารทางการเงินของนิติบุคคลด้วย ซึ่งถ้าพบว่า ผิดก็ขอให้ยุบนิติบุคคลฯ ชุดนี้ไปเพราะชาวบ้านนั้นไม่ต้องการแล้ว เพราะไม่มีความโปร่งใสในการทำงาน
ส่วน นายมะนบ ชูเนตร ผู้อำนวยการกองการบริหารชุมชนภูมิภาค 4 ฝ่ายบริหารงานชุมชน 4 กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในระหว่างการตรวจสอบบัญชีรับ-จ่ายของนิติบุคคลฯ ชุดนี้ว่ามีการเอกสารในการรับ-จ่ายถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งหาที่มาของรายรับ และเงินที่จ่ายออกไปว่านำไปทำอะไรบ้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ผลในเร็วๆ นี้ ถ้าพบว่าบัญชีไม่ต้องทางนิติบุคคลจะต้องชี้แจงให้ได้ เมื่อสรุปผลได้แล้ว และถ้าพบว่าไม่มีการทุจริตชาวบ้านก็ต้องยอมรับกันทุกฝ่ายด้วย