เชียงใหม่ - หมอกควันไฟป่ากลับมาปกคลุมเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ หนาแน่นอีกครั้ง ค่ามลพิษสูงเกินค่ามาตรฐาน ชาวบ้านแสบตากันทั่ว ชี้เป็นสาเหตุหนึ่งทำเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นักท่องเที่ยวลด-เงินสะพัดไม่ถึงพันล้าน
วันนี้ (17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ ถูกหมอกควันไฟป่ากลับมาปกคลุม จน “ดอยสุเทพ” หายไปจากสายตาอีกครั้ง ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นบนเส้นทางถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ขาออกตัวเมืองเชียงใหม่ บริเวณย่านสะพานต่างระดับดอนจั่น ลดลงเหลือประมาณ 200-300 เมตรเท่านั้น ประชาชนที่เดินทางต้องใช้ความระมัดระวัง
ขณะที่เช้าวันนี้ค่ามลพิษในอากาศก็เพิ่มสูงขึ้น สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณโรงเรียนยุพราช ใจกลางเมืองเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน สูงถึง 148 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ส่วนคุณภาพอากาศ หรือ AQI สูงถึง 113 ซึ่งค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 100 ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทำให้ประชาชนมีอาการแสบตาและจมูก
นายพรชัย จิตนวเสถียร ประธานสภาอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากการเผาไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่าตามอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่ ทำให้หมอกควันไฟลอยเข้ามาคลุมเหนือตัวเมืองยาวนานมาถึงต้นเดือนเมษายน รวมทั้งคุณภาพน้ำในคูเมือง ประกอบกับภาวะภัยแล้ง น้ำในคูเมืองเชียงใหม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำ มีใช้คลอรีนแทนอีเอ็ม จนทำให้น้ำขุ่น ประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ มีผลทำให้นักท่องเที่ยวที่มีเงินบางส่วนเปลี่ยนโปรแกรมเดินทางไปเที่ยวที่อื่น จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไม่ต่ำกว่า 10% ทำให้รายได้จากการการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ ปีนี้ไม่ถึง 1 พันล้านบาท
ส่วนเรื่องการเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ทั้งห้ามดื่มสุรา หรือห้ามโป๊เปลือยในเขตคูเมือง มีการประกาศใช้มานานหลายปีแล้ว ไม่น่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว