ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอกควันไฟป่ากลับมาปกคลุมทึบทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่อีกรอบ หลังไร้ฝนตกและกระแสลมช่วยชะล้างเหมือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่สูงเกินมาตรฐาน ขณะที่ทางจังหวัดเน้นย้ำกำชับทุกภาคส่วนร่วมมือลดปัจจัยเสี่ยง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (3 มี.ค. 59) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่กลับมาถูกปกคลุมหนาทึบด้วยหมอกควันอีกครั้ง ทั้งหมอกควันที่เกิดจากการเผาป่า เผาพื้นที่เกษตร และไอเสียของรถยนต์ หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์คลี่คลายลงไปมาก จากการที่มีฝนตกลงมาและกระแสลมช่วยพัดพาชะล้างหมอกควันในพื้นที่ให้เจือจางเบาบางลงจนสามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้จากระยะไกล แต่ล่าสุดที่หมอกควันปกคลุมหนาทึบส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้จากระยะไกล หรือหากมองเห็นได้ก็เลือนรางมาก
ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ (3 มี.ค. 59) ที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ที่ 95 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84
ส่วนที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ที่ 71 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 ซึ่งทั้งสองสถานีมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ไม่เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศไม่เกินค่ามาตรฐาน 100 โดยในช่วงวันที่ 2 มี.ค. 59 ที่ผ่านมาภาคเหนือตอนบนพบจุดความร้อน หรือ HOTSPOT รวม 25 จุด ซึ่งจังหวัดแพร่พบมากที่สุด จำนวน 9 จุด ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ไม่พบเลย
ทั้งนี้ ในส่วนของการป้องกันแก้ไขปัญหาและบรรเทาสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศนั้น จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำกำชับขอความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วนในการควบคุมการเผาทุกชนิดที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหา ตลอดจนให้ร่วมกันแจ้งเบาะแสการเผาในพื้นที่ของตัวเองด้วย เพื่อระงับยับยั้งเหตุได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีก่อนที่จะทำให้ปัญหาขยายวงกว้าง โดยเบื้องต้นในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ยังได้มีการจัดรถฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศด้วย