นครพนม - จับจริงสามวันเมาแล้วขับที่นครพนมทะลุ 146 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ขู่ซ้ำหากเมาแล้วยังขับจับดำเนินคดีทันทีเพราะเป็นเหตุหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุ
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องยังคงเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2559 ซึ่งมีการตั้งจุดตรวจหลัก จำนวน 26 จุด ในพื้นที่ 12 อำเภอ โดยตามเส้นทางสายหลักต่างๆ พบว่าประชาชนต่างทยอยเดินทางกลับบ้าน รวมถึงเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างคึกคัก
เช่นเดียวกันกับถนนสายหลักจากสกลนครเชื่อมไปยัง อ.นาแก จ.นครพนม มุ่งหน้าสู่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อำเภอท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงเส้นทางจาก อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มุ่งหน้าไปยัง จ.มุกดาหาร พบว่ารถสัญจรไปมาเริ่มหนาแน่นกว่าหลายเส้นทางเนื่องจากเป็นเส้นทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวสำคัญ ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดนครพนมได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการเข้มตั้งจุดตรวจ จุดสกัด รวมถึงบริการประชาชน
ทั้งพื้นที่ 12 อำเภอ เป็นจุดหลักมากกว่า 26 จุด เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิต เน้นตรวจสอบจับกุมรถกระทำผิดวินัยจราจร ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และเมาแล้วขับ
ล่าสุดจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2559 พบมีการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมดจำนวน 14 ครั้ง บาดเจ็บ 13 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ นายชวลิตร พัดมา อายุ 37 ปี ชาวบ้านนาแกน้อย ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม สาเหตุมาจากขับขี่รถจักรยานยนต์ความเร็วเกินกำหนดชนรั้วกำแพงเสียชีวิต
นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้เพิ่มมาตรการเข้มในการกวดขันตรวจจับผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราเกินปริมาณตามกฎหมายกำหนด ซึ่งจากสถิติการจับกุม พบเพียงแค่ 3 วันมีการจับกุมคดีเมาแล้วขับจากพื้นที่ 12 อำเภอมากถึง 146 ราย
ด้าน พล.ต.ต.ธนพล บริบูรณ์ ผบก.ภจว.นครพนม ได้ประกาศเตือนประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ขอความร่วมมือให้ทุกท่านปฏิบัติตามกฎจราจร งดใช้ความเร็ว และตรวจสอบรถให้มีความพร้อมก่อนเดินทาง หากมีอาการง่วงหรือไม่พร้อมในการขับรถให้หยุดพักที่จุดพักหรือพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง
พร้อมประกาศที่สำคัญฝากเตือนประชาชน หากดื่มสุราไม่ควรขับรถ หากพบตำรวจจะมีการตรวจจับดำเนินคดีทันที เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินตามมา