ราชบุรี - ตำรวจภาค 7 ตามรวบได้แล้วมือปืนยิงถล่มรถกำนันตำบลบ้านบึง จนอดีตกำนันตำบลบ้านบึงเสียชีวิต สาเหตุเกิดมาจากการขัดแย้งการเมือง ด้านชาวบ้านรอรุมประชาทัณฑ์ ขณะเจ้าหน้าที่คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (13 เม.ย.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พล.ต.เจษฎา เปรมนิรันดร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัว นายเอกภพ ขันถม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 5 ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และนายอภิชาติ พ่วงแจงงาม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 4 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านบึง มาแถลงข่าวที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี
พร้อมของกลางอาวุธปืนยาวอาก้า 1 กระบอก กระสุนปืน จำนวน 110 นัด และแมกกาซีน 1 อัน รถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 2657 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่ด้านข้างขวามีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงจนเป็นรู แต่ทางเจ้าของรถได้นำสีมาทาปิดร่องรอยไว้ และรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บร 9352 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้หลบหนี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมได้ที่ จ.ปัตตานี เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหายิง นายสมนึก ร่มโพธิ์รีย์ อดีตกำนันตำบลบ้านบึง เสียชีวิต นายเอก คงวิเศษวัฒนา สารวัตรกำนันได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายนัฐยุทธ์ ร่มโพธิ์รีย์ กำนันตำบลบ้านบึง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะเดินทางกลับจากงานศพใน ต.บ้านบึง
โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนสายชัชป่าหวาย-โป่งกระทิง หมู่ 2 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.59 ที่ผ่านมา โดย นายอภิชาติ ซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยาวอาก้ายิงใส่รถมิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 4159 ราชบุรี ของนายนัฐยุทธ์ ร่มโพธิ์รีย์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ อ้างว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะถูกกดดันเรื่องการผูกขาดทางการเมือง เพราะอีกไม่นานพ่อของตนจะหมดวาระจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่ทางผู้ตายจะส่งคนมาลงแข่งกับทางญาติของตน จึงไม่อยากให้ทางผู้ตายมายุ่งเรื่องการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ของ ต.บ้านคา และอยากให้มีการเปลี่ยนขั้วการเมืองบ้าง
ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านก็ถูกกดดันจากผู้นำชุมชน โดยขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกก็ถูกจับ แต่เวลารถสิบล้อวิ่งบรรทุกแร่กลับไม่ถูกจับ ทำให้เกิดการคับแค้นใจ โดยร่วมวางแผนกับเพื่อนมากว่า 1 เดือน ซึ่งอาวุธปืนที่ใช้ก็ซื้อมาจากทางจังหวัดทางภาคใต้ เพราะเคยลงแข่งขันถอดประกอบอาวุธปืนสงครามจนได้รางวัลชนะเลิศ จึงค่อนข้างมีความชำนาญ และเมื่อก่อเหตุแล้วก็นำรถปิกอัพ 4 ประตู ซึ่งถูกอาวุธปืนที่ นายนัฐยุทธิ์ ยิงตอบโต้ในวันเกิดเหตุไปซ่อนในอู่แห่งหนึ่งใน อ.โพธาราม เพื่อจะทำการปิดร่องรอยที่ถูกยิง และใช้รถปิกอัพอีกคันขับรถหนีไปอยุ่บ้านญาติที่ จ.ปัตตานี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมมาได้
ภายหลังจากมีการแถลงข่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า มีประชาชนมารอดูการทำแผนในครั้งนี้มากกว่า 2,000 คน ทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครรักษาดินแดน และ อส. ตำรวจมากกว่า 300 คน มาช่วยรักษาความปลอดภัยในช่วงที่ทำแผน โดยมี นายพินิจ ร่มโพธิ์รีย์ นายก อบต.บ้านคา ลูกชาย และนางปราณี ร่มโพธิ์รีย์ ภรรยาของนายสมนึก ร่มโพธิ์รีย์ พร้อมกับญาติได้นำช่อดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 ที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้
ทั้งนี้ ขณะช่วงทำแผนประชาชนที่มาดูต่างก็พยายามที่จะฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาเพราะความโกรธแค้น พร้อมทั้งขว้างปาขวดน้ำ ไข่ไก่ และก้อนหินใส่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถกลับทันที