ราชบุรี - ตำรวจราชบุรี เร่งหาข้อมูล และหลักฐานเพื่อไล่ล่าคนร้ายที่กราดอาวุธสงครามยิงถล่มรถกำนันตำบลบ้านบึง จนอดีตกำนันคนดังผู้เป็นพ่อเสียชีวิต เริ่มพบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายไปตามแนวชายแดนด้านอำเภอสวนผึ้ง ส่วนประเด็นสังหารยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องของธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีทั้งเรื่องของธุรกิจเหมืองแร่เฟสบา ธุรกิจฟาร์มวัวขุน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำฝายในพื้นที่ รวมทั้งการซื้อขายที่ดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงรถยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 4159 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถของ นายนัฐยุทธ์ ร่มโพธิ์รี อายุ 38 ปี กำนันตำบลบ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ส่งผลให้ นายสมนึก ร่มโพธิ์รีย์ อายุ 64 ปี อดีตกำนันตำบลบ้านบึง ซึ่งเป็นพ่อของกำนันนัฐยุทธ์ ที่นั่งมาในรถด้วยถูกยิงเข้าที่บริเวณลำคอ และลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ยังมี นายเอก คงวิเศษวัฒนา อายุ 40 ปี สารวัตรกำนัน ซึ่งเป็นคนขับถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัวหลายแห่ง อาการสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.บ้านคา ส่วนกำนันนัฐยุทธ์ นั่งมาในตอนหลังของรถไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยเหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกตลาดนัดโป่งกระทิง บนถนนสายโป่งกระทิง-ชัฏป่าหวาย หมู่ 2 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา เมื่อช่วงเวลา 23.00 น.ของวันที่ 2 เม.ย.59 ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าในวันนี้ (4 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข้อมูลของคนร้าย รวมทั้งประเด็นการสังหารได้กระจายกำลังออกหาข่าวในพื้นที่ รวมทั้งติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย โดยดูจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งเมื่อตรวจสอบหลายเส้นทางแล้วพบว่า คนร้ายใช้เส้นทางหลบหนีไปตามแนวชายแดนเข้า อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แต่ก็ยังไม่ทราบว่าคนร้ายที่มาลงมือนั้นจะเป็นคนไทยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสานไปในพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปเพื่อให้ช่วยติดตามเบาะแส
ส่วนประเด็นการสังหารนั้น พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องของธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีทั้งเรื่องของธุรกิจเหมืองแร่เฟสบา ธุรกิจฟาร์มวัวขุน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำฝายในพื้นที่ รวมทั้งการซื้อขายที่ดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องต่อธุรกิจทุกอย่างของ กำนันสมนึก และกำนันนัฐยุทธ์ ไปสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสการขัดแย้งว่าน่าจะมีธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงจนเป็นชนวนสังหารโหดปิดบัญชีแค้นในครั้งนี้
นอกจากนี้ หลังจากที่ นายนัฐยุทธ์ ร่มโพธิ์รีย์ กำนันตำบลบ้านบึง กล่าวว่า ก่อนที่พ่อจะถูกยิงเสียชีวิตเคยบ่นให้ฟังว่า มีปัญหาเรื่องที่ดินกับอดีตนายตำรวจท่านหนึ่งที่กล่าวหาว่าพ่ออยู่เบื้องหลัง จนพ่อของตนสามารถสู้คดีจนชนะ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ทางผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยทางโทรศัพท์จาก พ.ต.อ.ศรีเทียน ณ สงขลา อายุ 75 ปี อดีตนายตำรวจนอกราชการที่ถูกพาดพิงว่า “มีปัญหาความขัดแย้งกับกำนันสมนึก กล่าวว่า ตนนั้นมีที่ดินกว่า 1,000 ไร่ และมีปัญหาฟ้องร้องอยู่กับ นายเรไร ขำเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บ้านบึง และนายทุนจาก จ.เพชรบุรี คนหนึ่งเป็นคนสนิทของกำนันสมนึก กับพวกอีก 10 คน ในข้อหาบุกรุกที่ดินของตนที่ถือครองมากว่า 40 ปี ซึ่งตนเป็นฝ่ายเสียหาย และถูกข่มขู่มาตลอดเรื่องยังไม่จบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ยของศาล และจะนัดขึ้นศาลอีกครั้ง 30 มิ.ย.59 นี้ และยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเรื่องการเสียชีวิตของอดีตกำนันตำบลบ้านบึง เพราะอายุก็มากแล้วไม่อยากมีเรื่องกับใคร”