ราชบุรี - ผู้ว่าฯ ราชบุรี พร้อม ผบ.กองพลพัฒนาที่ 1 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแม่ค้าตลาดเพื่อการเกษตร หรือตลาดหัวคลองสวนกล้วย ตั้งอยู่ริมถนนเลียบคลองชลประทานสวนกล้วย-นครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง หลังถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผา พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคดีคนร้ายมาลงโทษ
จากเหตุการณ์ตลาดเพื่อการเกษตร หรือตลาดหัวคลองสวนกล้วย ตั้งอยู่ริมถนนเลียบคลองชลประทานสวนกล้วย-นครชุมน์ หมู่ 3 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เกิดเหตุไฟไหม้กลางดึกของวันที่ 10 เม.ย.59 ที่ผ่านมา เพลิงได้ไหม้ร้านค้า จำนวน 17 แผง ได้รับความเสียหาย ภายหลังทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี ได้เข้าตรวจหาหลักฐานบริเวณแผงค้าจุดที่เริ่มเกิดเพลิงไหม้ พบว่า เป็นการลักลอบวางเพลิง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (12 เม.ย.) นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พล.ต.เจษฎา เปรมนิรันดร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดหัวคลองสวนกล้วย พร้อมติดตามความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุวางเพลิง
นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า หลังได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อหาตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงให้ความช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าเพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น
สำหรับการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุวางเพลิงนั้น ได้สั่งกำชับทาง ผกก.สภ.บ้านโป่ง ให้เร่งดำเนินการติดตามคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ส่วนในการดูแลตลาดหัวคลอง ได้สั่งการให้ทาง อบต.สวนกล้วย ร่วมกับฝ่ายปกครองเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วง 7 วันอันตราย ให้ตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าตลาดแห่งนี้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่แม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งให้ อบต.สวนกล้วย รีบเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกล้องวงจรปิดที่เสียให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผกก.สภ.บ้านโป่ง เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมเด็กวันรุ่นได้ 3 คน อายุระหว่าง 13-15 ปี ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้แอบเข้ามาในตลาดตอนกลางคืนจริง จากนั้นได้งัดตู้ตามแผงร้านค้า นำผลแตงโมมาผ่ากิน นำไข่ไก่ ไข่เป็ดมาโยนเล่นด้วยความคึกคะนอง และขโมยเงินเหรียญของแม่ค้าไปเท่านั้น สำหรับเพลิงไหม้ร้านค้าในตลาดทั้งหมดให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในการสอบสวนปากคำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาแล้วเชื่อว่า เด็กทั้ง 3 คน น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเพลิงไหม้ครั้งนี้
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พร้อมได้นำตัวเด็กทั้ง 3 คน ไปทำการฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรี ส่วนสาเหตุการวางเพลิงตลาดครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนว่าสาเหตุมาจากอะไร ไม่ว่าเรื่องความขัดแย้งกันภายในตลาด หรือเรื่องส่วนตัวในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน กำลังเร่งดำเนินการอยู่ แต่ต้องกล่าวยอมรับว่า การทำงานของเจ้าหน้าตำรวจนั้นยากลำบากขึ้น เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในตลาดทุกตัวเสียใช้การไม่ได้