นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมแถลงข่าวรวบ “ไอ้เยาว์” พร้อมพวกรวม 4 คน ออกปล้นชิงทรัพย์ฆ่าโหดเพื่อนบ้าน ได้พระเลี่ยมทองหลายรายการ พร้อมทองคำ และเงินสดหนีกบดานที่อยุธยา สารภาพแค่มาเอาทรัพย์ไม่หวังฆ่า แต่พลาดทำผู้ตายดับ
วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ รอง ผกก.ป. และชุดคลี่คลายคดี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม 4 คนร้าย ที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์ นายไพฑูรย์ กลิ่นพะยอม อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/2 ม.5 ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยจับมัดมือเท้า และใช้ของแข็งทุบศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนร่วมกันค้นทรัพย์สินหลบหนีไปหลายรายการ เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พระเครื่อง 9 องค์ พระเครื่องอื่นๆ แหวนนาฬิกา และเงินสด 100,000 บาท
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายพเยาว์ หรือเยาว์ สุจจริตจูล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.10 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม นายสมาน หรือแอ๊ด หาวิธี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/5 ม.5 ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายวัลลภ หรือลภ ปิ่นสุข อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 ม.5 ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายดิเรก หรือเรก สาริบุตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/2 ม.3 ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยของกลาง นาฬิการาโด้ 1 เรือน พระเลี่ยมทอง 4 องค์ พระโลหะคล้ายทอง จำนวน 1 องค์ ตระกรุด 3 กษัตริย์เลี่ยมทอง จำนวน 1 ดอก สร้อยคอสเตนเลส มีพระเครื่องห้อยคอ จำนวน 7 องค์ 1 เส้น สร้อยคอสเตนเลส มีพระเครื่องกับสร้อย จำนวน 5 องค์ จำนวน 1 เส้น พระเครื่อง จำนวน 103 องค์
จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายพเยาว์ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ได้มาวนเวียนเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน และคุ้นเคยกับบ้านของผู้ตาย ต่อมา เมื่อวันที่ 23 มี.ค.59 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้ร่วมกับเพื่อนทั้ง 3 คน เข้ามาก่อเหตุบุกเข้าบ้านเพื่อปล้นทรัพย์ และเคยมาวนเวียนดูต้นทางก่อน แต่เข้าไม่ได้เพราะมีเสียงสุนัขเห่า กระทั่งเวลา 03.00 น. ทั้งหมดมั่นใจว่าบ้านปลอดคนจึงเข้ามาก่อนเหตุจากทางหลังบ้านซึ่งเป็นที่เปลี่ยว โดยปีนหน้าต่างข้างบ้านเข้ามา และช่วยกันจับ นายไพฑูรย์ ผู้ตายมัด และปิดปากก่อนจะช่วยกันรื้อค้นทรัพย์สินไปทั้งหมด จากนั้นได้หลบหนีไปที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยแบ่งเงินสดรอบแรกได้ไปคนละ 2 พันบาท จากนั้นได้เอาทองคำไปขายให้ร้านทอง โดย นายพเยาว์ ได้เงินแบ่งไป 4.4 หมื่นบาท ส่วนอีก 3 คน ได้รับส่วนแบ่ง 2.2 หมื่นบาท ก่อนจะมาถูกจับกุมพร้อมของกลางในที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักของ นายไพฑูรย์ โดยมีการควบคุมพื้นที่อย่างรัดกุม เพราะมีชาวบ้านนับร้อยคนมาคอยรออยู่เกรงว่าจะมีเหตุ และเมื่อมาถึง นายพเยาว์ ได้เข้าไปยกมือไหว้บุตรสาวของ นายไพฑูรย์ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะเอาชีวิตของผู้ตาย แต่มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่า นายพเยาว์ และกลุ่มคนร้ายได้มาวนเวียนในพื้นที่เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีอาชีพ และมักจะมารับจ้างวางยาให้ไก่ชน แต่ในวันเกิดเหตุไม่มีงานให้วางยาไก่ชน และไม่มีเงิน นายพเยาว์ ซึ่งคุ้นเคยในละแวกที่เกิดเหตุจึงชี้เป้า เนื่องจากทราบว่า ผู้ตายมีทรัพย์สินมาก และมีพระดีหลายองค์จึงได้ชี้เป้าเข้าก่อเหตุ แต่ที่ผู้ตายเสียชีวิตเป็นเพราะคนร้ายได้ใช้เข่ากดศีรษะผู้ตายไว้ไม่ให้ดิ้น จนเกิดเป็นบาดแผล และเสียชีวิตในที่สุด หลังทำแผนเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดส่งตัวดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
