ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจจับกุมโจรจี้ชิงทองร้านทองกลางเมืองหาดใหญ่ได้แล้ว พบเป็นชาวมาเลเซีย หัวหน้าแก๊ง 04 ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ประวัติเคยปล้นร้านทองในมาเลเซียมูลค่า 50 ล้านบาท และเป็นมือปืนรับจ้างปล้นฆ่ามานับ 10 ราย ทั้งคนไทย และมาเลเซีย
วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนพกสั้นจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างทองไทยยินดี 2 ถนนมนตรี 1 ย่านศูนย์การค้าพลาซ่า กลางเมืองหาดใหญ่ กวาดทองรูปพรรณไป 31 เส้น น้ำหนัก 115 บาท หรือ 1.7 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาท และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา และหลังเกิดเหตุทางตำรวจ และเจ้าของร้านทองได้ตั้งรางวัลนำจับ 2 แสนบาท ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส
ล่าสุด กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และพ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ดุสิต พรหมสิน รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้บุกเข้าจับกุม นายยีบุนลง อายุ 53 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว ขณะกบดานอยู่ภายในห้องพัก 402 ศรีนครคอนเนอร์ เลขที่ 15/6 ถนนศรีนคร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ หรือชื่อที่ระบุในบัตรประชาชนที่ทำปลอมขึ้นมาคือ นายอาหวู่พะ สินเกา และชื่อที่เรียกกันเล่นๆ ว่า อาอูหรืออาเฮีย
จากการตรวจค้นภายในห้องพักเจ้าหน้าที่พบของกลางที่เกี่ยวข้องต่อการก่อเหตุได้ทั้งหมด 21 รายการ เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 86 บาท ที่เหลืออยู่ แยกเป็นหนัก 3 บาท 9 เส้น หนัก 4 บาท 6 เส้น และหนัก 5 บาท 7 เส้น เงินสด 127,400 บาท อาวุธปืน 9 มม.1 กระบอก กระสุน 50 นัด เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ บัตรประชาชนปลอมของผู้ต้องหาระบุชื่อ นายอาหวู่พะ สินเกา อายุ 49 ปี ที่อยู่ 135 หมู่7 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน รวมทั้งใบขับขี่ และบัตรประกันสุขภาพที่ทำปลอมขึ้นมาทั้งหมด และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีม่วงขาว หมายเลขทะเบียน 1 กค 3947 สงขลา และป้ายทะเบียนปลอม งกฉ 603 สงขลา ซึ่งเป็นป้ายที่ใช้สวมในวันเกิดเหตุ
หลังการจับกุม พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู ผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำตัวไปทำแผนที่ร้านทองห้างทองไทยยินดี 2 โดยมีการวางกำลังตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบคุมพื้นที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด เนื่องจากมีบรรดาไทยมุงมาดูการจับกุม และทำแผนจำนวนมาก และจากการสอบสวน นายยีบุนลง ยอมรับสารภาพแต่โดยดี
สำหรับการคลี่คลายคดีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพยายามตามแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แต่เบื้องต้นพบว่า ป้ายที่สวมในวันก่อเหตุเป็นป้ายของรถอีกคันที่ได้แจ้งหายไว้ แต่ต่อมาพบเบาะแสสำคัญคือ ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน มีรถต้องสงสัยซึ่งลักษณะเดียวกัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีม่วงขาว แต่สวมป้ายหมายเลขทะเบียน 1 กค 3947 สงขลา ขับมาดูลาดเลาโดยมีสิ่งของวางที่ตะกร้าหน้ารถตรงกันคือ ขวดน้ำมีฉลากสีเขียว เสื้อกันฝนสีส้ม
เมื่อตรวจสอบข้อมูลรถพบว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งเป็นผู้ครอบครอง และเมื่อตามไปสอบสวนหญิงสาวรายนี้ก็ให้การว่า มีนายอาอู หรือนายอาหวู่พะ ซึ่งเป็นอดีตคนรักเก่าช่วยให้พาไปซื้อ และเป็นคนใช้รถคันนี้ และเมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพถ่ายของผู้ต้องหามาให้ดูก็ยืนยันว่าตรงกัน กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลติดตามจับกุมได้คาห้องพัก
พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของ นายยีบุนลง พบว่า ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายมนตรี แซ่กัง และนายศรีรัตน์ แซ่กัง 2 พี่น้องเสียชีวิตที่บ้านเช่าเลขที่ 4/6 หมู่3 ต.เกาะยอ อ.เมืองจ.สงขลา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ที่สำคัญเคยก่อเหตุปล้นทรัพย์ร้านทองที่เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ประเทศมาเลเซียเมื่อ 10 ปีก่อน ได้ทรัพย์สินไป 50 ล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 10 ปีเศษ ส่วนบัตรประชาชนปลอมรับว่าซื้อมาในราคา 250,000 บาท ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ส่วนใบขับขี่ และบัตรประกันสุขภาพก็ทำปลอมขึ้นมาทั้งหมดเช่นกันนั้น
และจากการสอบสวน นายยีบุนลง ก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี โดยบอกว่าหลังก่อเหตุชิงทรัพย์ห้างทองไทยยินดี 2 ได้ให้เพื่อนชาวมาเลเซียนำทองไปขายที่มาเลเซียแล้ว 29 บาทเหลืออยู่อีก 86 บาท แต่ที่น่าตกใจคือ นายยีบุนลง ให้การเพิ่มเติมอย่างเลือดเย็นเกี่ยวกับประวัติของตัวเองว่าเป็นแก๊งโจรชิงทรัพย์ข้ามชาติ มีชื่อว่า แก๊ง 04 โดยตนเป็นหัวหน้า และมีเพื่อนร่วมทีมด้วยกันทั้งหมด 5 คน และจะลงมือก่อเหตุเฉพาะรายการใหญ่ๆ เท่านั้นทั้งในมาเลเซีย และไทย
รวมทั้งยังบอกว่า ตนเองช่วงที่อยู่ในมาเลเซียตนยังเป็นมือปืนรับจ้างด้วย โดยก่อเหตุฆ่าในมาเลเซียมาแล้วอย่างน้อย 10 คน และในไทย 2 คน ซึ่งเป็น 2 พี่น้องเพียงแค่โกรธที่ถูกด่าบุพการี และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ห้างทองมนตรี 2 หากวันนั้นเจ้าของร้านขัดขืนก็จะยิงเช่นกัน และหากพบตำรวจก็จะยิงตำรวจด้วย รวมทั้งยังคลั่งไคล้เรื่องไสยศาสตร์ โดยสักยันต์รูปหนุมาน และรูปของขลังต่างๆ ไว้บนตัวด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือ ทั้งชิงทรัพย์ผู้อื่นฯ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
ในส่วนรางวัลนำจับ จำนวน 2 แสนบาท ที่ได้มีการตั้งค่าหัวไว้นั้น มีรายงานว่าทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีการมอบให้แก่ชุดสืบสวนของตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการติดตามคลี่คลายคดีนี้