ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ทบทวนโครงการขยายถนนหมายเลข 12 ที่ต้องตัดไม้เกือบ 500 ต้นขอไว้เป็นอุโมงค์ต้นไม้แหล่งสุดท้ายของประเทศ
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (4 เม.ย. 59) สมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฝั่งตรงข้ามประตู 4 ทำเนียบ (ตึก ก.พ.เดิม) เวลา 11.00 น. เพื่อให้มีการทบทวนเรื่องการตัดต้นไม้ ตามที่แขวงการทางเพชรบูรณ์ที่ 1 สำนักทางหลวงที่ 6 (เพชรบูรณ์) ได้ประมูลขายต้นไม้ขนาดใหญ่สองฝั่งถนนเกือบ 500 ต้น ตามถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ไปด้วยราคาประมาณ 1.2 ล้านบาทแล้ว และผู้ประมูลได้ทำการตัดโค่นต้นไม้ไปแล้วกว่า 50 ต้นนั้น
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้คัดค้านกรณีดังกล่าวโดยสิ้นเชิง เพราะต้นไม้ที่มีอายุเกือบ 100 ปีทั้งเกือบ 500 ต้นตลอดแนวเส้นทางดังกล่าวได้แผ่กิ่งก้านจนทำให้ถนนสาย 12 ร่มรื่น สวยงาม และช่วยลดสภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคนี้ พ.ศ.นี้ที่คนทั้งโลกรณรงค์การรักษาต้นไม้ รักษาป่า ปลูกต้นไม้กันไปทั้งโลก เพื่อลดปัญหาโลกร้อนและป้องกันปัญหาภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้
กรณีดังกล่าวสมาคมฯ จึงใคร่ที่จะต้องร้องเรียนและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงปัญหาการทำงานของหน่วยงานราชการที่ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลและขัดต่อคำแถลงของนายกรัฐมนตรีที่เวทีการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยโลกร้อนที่ฝรั่งเศสโดยสิ้นเชิง โดยจะขอให้
1) ทบทวนแบบแปลนการขยายถนน 4 เลนตามโครงการขยานถนนหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) เสียใหม่ โดยให้ขยายโดยไม่กระทบต้นไม้ คือ การเบี่ยงเส้นทางออกไปสองข้างถนน ซึ่งถนนสายดังกล่าวยังมีพื้นที่ของกรมทางหลวงเหลืออีกฝั่งละเกือบ 20 เมตร เพื่อรักษาอุโมงค์ต้นไม้ไว้ให้เป็นเกาะกลางถนนได้
2) “ขอซื้อคืนอุโมงค์ต้นไม้” หรือต้นไม้ใหญ่ต่างๆ ที่ยังเหลือจากการตัดโค่นของผู้ประมูลได้ ซึ่งน่าจะเหลือกว่า 450 ต้น เพื่อนำต้นไม้ดังกล่าวกลับมาเป็นสมบัติของชาวเพชรบูรณ์และของคนไทยทั้งชาติได้มีถนนสายต้นไม้สวยๆ ร่มรื่น และอาจจะเป็นถนนสาย Unseens ได้อีกสายหนึ่งของคนไทยในอนาคต
