xs
xsm
sm
md
lg

น้ำตาตก! แล้งทำน้ำอูนแห้งปลากระชังทยอยตายแล้วร่วม 2 ตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - แล้งวิกฤตกระทบลำน้ำอูนแห้ง ปลากระชังทยอยตาย เกษตรกรเดือดร้อนหนัก สัปดาห์เดียวตายร่วม 2 ตัน

วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สถานการณ์ภัยแล้งได้ส่งผลกระทบรุนแรงทำให้ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงสายหลักเริ่มลดระดับลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลำน้ำอูนที่ไหลมาจากเขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ที่ไหลผ่านพื้นที่ จ.นครพนม ลงสู่แม่น้ำสงครามก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ล่าสุดได้ลดระดับอย่างรวดเร็วหลังจากทางเขื่อนน้ำอูนได้มีการปิดเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ส่งผลกระทบต่อลำน้ำอูนลดระดับรวดเร็ว บางจุดมีระประมาณแต่ 1-2 เมตร จากระดับน้ำ 4-5 เมตร สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ที่ประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังขายกว่า 20 ราย เนื่องจากลำน้ำอูนแห้งทำให้น้ำไม่หมุนเวียน และมีออกซิเจนในน้ำต่ำทำให้ปลากระชังของเกษตรกรเริ่มทยอยตาย

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปลากระชังของเกษตรกรน็อกน้ำตายไปประมาณ 2 ตัน ทำให้เกษตรกรต้องพากันเร่งขายก่อนกำหนดเพราะเกรงว่าปลาตายจะเกิดปัญหาขาดทุนหนัก พร้อมงดเลี้ยงชั่วคราวเนื่องจากปัญหาภัยแล้งยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อปลากระชัง เพราะในช่วงหน้าแล้งหากระดับน้ำในลำน้ำอูนไม่หมุนเวียนจะส่งผลต่อการเลี้ยงปลานิลแปลงเพศทำให้เจริญเติบโตช้า และมีโอกาสเกิดโรคระบาดตายสูง บางรายต้องขาดทุนปีละ 2-3 แสนบาท

นายลักษณ์ มหาวงค์ อายุ 48 ปี เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง บ้านนาคูณน้อย ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม กล่าวว่า ในปีนี้เกษตรกรกว่า 20 รายในพื้นที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งมาก เนื่องจากลำน้ำอูนที่เกษตรกรเลี้ยงปลากระชังเป็นปลานิลแปลงเพศ แห้งเร็วกว่าทุกปี บวกกับทางเขื่อนน้ำอูนพื้นที่ต้นน้ำ จ.สกลนคร มีการกักน้ำทำให้น้ำแห้ง ไม่หมุนเวียน ออกซิเจนต่ำ และมีอุณหภูมิสูงทำให้ปลาในกระชังเกิดปัญหาขาดออกซิเจนตายจำนวนมาก

โดยช่วงนี้เกษตรกรกว่า 20 ราย เลี้ยงปลากระชังคนละประมาณ 20,000-30,000 ตัว ต้องพากันเร่งนำปลากระชังที่เลี้ยงไว้ขายก่อนกำหนด ปกติจะขายเมื่อปลาน้ำหนักตัวละประมาณ 1 กิโลกรัม ซึ่งใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือน แต่ปีนี้มีปัญหาเรื่องภัยแล้ง น้ำน้อย กระทบต่อการเลี้ยงปลาโตช้า ไม่กินอาหาร ใช้เวลาเลี้ยงนานกว่าปกติ ยาวถึง 5-6 เดือน เพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่าย และในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ปลาน็อกน้ำตายอีกกว่า 2 ตัน ขาดทุน 2-3 แสนบาท เพราะจะขายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ทำให้ช่วงนี้ยอมขายขาดทุน ก่อนกำหนดในราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท เพื่อระบายปลาออก และงดเลี้ยงชั่วคราว

“ฝากวิงวอนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องให้มาดูแลช่วยเหลือพิจารณาจัดสรรน้ำในลำน้ำอูนให้หมุนเวียน ที่จะทำให้เกษตรกรเลี้ยงปลาสร้างรายได้ตลอดปี หรือสร้างระบบชลประทานกักน้ำแก้ไขปัญหาระยะยาว”


กำลังโหลดความคิดเห็น