เร่งดับไฟป่ารอบวัดภูสิงห์ หวั่นลุกลามพื้นที่ข้างเคียง

กาฬสินธุ์ - เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าระดมกำลังเร่งดับไฟไหม้ป่าภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดสามารถควบคุมได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังเหลือควันไฟไหม้ตอไม้ พร้อมจัดกำลังเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันไฟลุกลามเพิ่ม

ความคืบหน้าไฟไหม้ป่าภูเขาภูสิงห์ บริเวณรอบวัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ เขตพื้นที่ ต.โนนบุรี ซึ่งไฟได้ลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง ลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ อส. ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนทั่วไป รวมถึงพระสงฆ์ช่วยกันนำรถบรรทุกน้ำ รถดับเพลิงเข้าดับไฟตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เนื่องจากบริเวณป่าดังกล่าวมีต้นไม้และหญ้า ใบไม้แห้งจำนวนมาก ประกอบกับมีลมแรงจึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (31 มี.ค. 59) เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยพระสงฆ์และชาวบ้านยังคงเร่งดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วและกำลังจะลุกลามข้ามแนวกันไฟเข้ามายังเขตวัดพุทธาวาสภูสิงห์ และศูนย์สถานีสื่อสารที่มีทั้งเสาส่งสัญญาณสถานีโทรทัศน์ และเสาสัญญาณโทรศัพท์อีกหลายแห่ง กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมไฟไว้หมดแล้ว แต่มีบางจุดที่ยังพบควันไฟซึ่งไหม้ตอไม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องจัดกำลังเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณบนวัดพุทธาวาสภูสิงห์ เชิงเขาทางขึ้นบันไดภูสิงห์ บริเวณผาแดง เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไฟหากเกิดการลุกไหม้ขึ้นอีก

ด้านพระครูสิริพัฒน์นิเทศ เจ้าอาวาสวัดพุทธาวาสภูสิงห์ กล่าวว่า สาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่เข้ามาหาของป่าแล้วจุดไฟเผาป่าเพื่อหวังจะเก็บเห็ดและผักหวานช่วงหน้าฝน เบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายจากไฟไหม้ครั้งนี้ประมาณ 60 ไร่ โชคดีที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทันก่อนจะลุกลามสร้างความเสียหายมากกว่านี้ จึงฝากไปยังผู้ที่เข้ามาหาของป่าให้ยึดประโยชน์ส่วนรวม อย่าเห็นแก่ตัวเอง เพราะการจุดไฟเผาป่าเพื่อแลกกับการเก็บของป่านั้นไม่คุ้มต่อการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ที่สำคัญไป และยังทำให้เกิดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย