บุกค้นบ้านลูกจ้างไฟป่าลำพูน เจอตั้งโรงงานแปรรูป ซ่อนไม้เถื่อนอื้อ

ลำพูน - ทหาร ผนึกกำลังฝ่ายปกครอง บุกค้นไม้ลูกจ้างดับไฟป่าลำพูน พบสร้างบ้านไม้หลังงามหลายหลัง แถมมีโรงเรือนแปรรูปไม้พร้อมสรรพ เจอซ่อนไม้หวงห้ามทั้งที่แปรรูปแล้ว และไม้ท่อน อยู่ทั่วพื้นที่อีกเพียบ

ร.ท.ชัชชัยวัฒนา ภูริชญาพิพัฒน์ เจ้าหน้าที่ทหาร กลล.รส.พล.ร.7 ส่วนแยก 1 ลำพูน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำพูน กว่า 30 นาย บุกเข้าตรวจค้นบ้านเด่นนกแต้ ของนางนริษดา แสงสว่าง เลขที่ 85 หมู่ที่ 2 ต.ศรีบัวบาน อ.เมืองลำพูน ตลอดบ่ายวานนี้ (25 ธ.ค.) หลังรับแจ้งว่า มีการลักลอบตัดไม้หวงห้าม ตั้งโรงงานแปรรูป สร้างบ้านเพื่ออำพรางรอขายหลายหลัง

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณบ้านดังกล่าวที่อยู่ในซอยลึกประมาณ 200 เมตร มีรั้วติดกับสำนักงานดับไฟป่า พบว่า คนงานได้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันค้นหา โดยใช้กำลังทหารเดินเท้าขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน ไม่พบผู้กระทำผิด แต่มีร่องรอยของการตัดไม้หวงห้าม เช่น ไม้แดง ไม้เต็งรัง และไม้สัก ในเขตป่าสงวนถูกโค่นไปจำนวนมาก

ตรวจสอบบ้านไม้สักบริเวณดังกล่าวที่สร้างขึ้นมา 2 หลังติดกัน หลังแรกเปิดประตูบ้านไว้ แต่ไม่มีคนอยู่ ภายในพบเฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ขนาดต่างๆ จำนวนมาก ข้างบ้านทำเป็นอาคารมุงกระเบื้องมีแท่นไฟฟ้าแปรรูปไม้ 1 เครื่อง มีไม้แผ่นแปรรูป ซึ่งเป็นไม้สัก กองอยู่กว่า 100 แผ่น บริเวณหน้าบ้านมีเสื้อเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าแขวนไว้ ระบุชื่อ นายสำราญ จินดาจักร แต่ไม่พบตัวคาดว่าหลบหนีไปแล้ว ส่วนหลังถัดไปพบว่าเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ยังไม่มีผู้อยู่อาศัย และสร้างด้วยไม้สักอย่างดี

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบว่า สวนลำไยห่างบ้านไปประมาณ 50 เมตร มีท่อนไม้ขนาดความยาวประมาณ 15 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต จำนวน 3 ท่อน ซุกซ่อนไว้ ถัดสวนลำไยไปอีก 30 เมตร บริเวณลำเหมืองพบว่า มีไม้สักขนาดความยาว 1 เมตร ความกว้างตั้งแต่ 5-10 นิ้ว จำนวนกว่า 50 ท่อนซุกซ่อนอยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงข้ามไปตรวจสอบบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งทราบว่า เป็นบ้านของนายสำราญ ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และมีบ้านในหมู่บ้านนี้มีทั้งหมดถึง 7 หลัง พบว่า บ้านหลังล่าสุดนี้มีกองไม้แดง ไม้เต็งรัง ขนาดต่างๆ ที่เตรียมไว้เผาถ่านขายจำนวนมาก สอบถามไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ ใกล้กันพบมีกระสอบถ่านกองอยู่

เจ้าหน้าที่จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ดอยติ เข้ามาตรวจยึดไม้ทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่ทำการหน่วยรักษาป่าดอยติ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป