หวั่นขาดแคลน เกษตรกรเร่งกักตุนฟาง-ต้นข้าวโพดไว้เลี้ยงวัว-ควายหน้าแล้ง

บุรีรัมย์ - เกษตรกรบุรีรัมย์เร่งกักตุนฟางและต้นข้าวโพดที่เหลือจากการเก็บฝักขายมาสับไว้เป็นอาหารเลี้ยงโค-กระบือช่วงหน้าแล้ง หวั่นขาดแคลนหลังหญ้าตามธรรมชาติแห้งตายจากความแห้งแล้งทำให้ไม่มีสถานที่เลี้ยง บางรายต้องลงทุนซื้อฟางฟ่อนให้สัตว์เลี้ยงกินสัปดาห์ละ 100-200 บาท ขณะจังหวัดประกาศภัยพิบัติแล้งแล้ว 4 อำเภอ

วันนี้ (30 มี.ค.) เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ บ้านโคกสะอาด ม.11 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่มีโค-กระบืออยู่เกือบ 100 ตัว ต่างพากันเก็บกักตุนฟางตามทุ่งนามาอัดเป็นฟ่อนไว้ในคอกและยุ้งข้าวของตัวเอง ขณะที่บางคนนำต้นข้าวโพดที่เก็บฝักขายหมดแล้วมาสับเป็นท่อนไว้สำหรับเป็นอาหารสดเลี้ยงโค-กระบือในช่วงหน้าแล้ง เพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารสัตว์

เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งที่ขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ส่งผลให้หญ้าที่เป็นพืชอาหารสัตว์ตามทุ่งนา และป่าสาธารณะต่างๆ แห้งตาย ส่งผลให้เกษตรกรไม่มีสถานที่ที่จะนำโค-กระบือไปผูกเลี้ยงได้ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้เกรงจะส่งผลกระทบต่อโค-กระบือด้วย

ขณะที่เกษตรกรหลายรายซึ่งไม่มีฟางเป็นของตัวเองต้องลงทุนซื้อฟางฟ่อนจากเพื่อนบ้านเฉลี่ยสัปดาห์ละ 100- 00 บาท ไว้สำหรับให้โค-กระบือได้กินช่วงหน้าแล้งนี้

ล่าสุดทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งแล้ว 4 อำเภอ มี อ.เมือง ห้วยราช พลับพลาชัย และ อ.กระสัง มีราษฎรและเกษตรกรขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1,400 ครัวเรือน

นายปลอด สุทธิ เกษตรกรบ้านโคกสะอาด ต.สะแกซำ บอกว่า จากสภาพความแห้งแล้งส่งผลให้หญ้าที่เป็นอาหารโค-กระบือตามทุ่งนา และป่าสาธารณะแห้งตาย ทำให้เกษตรกรไม่มีสถานที่เลี้ยงโค-กระบือ ต้องไปเก็บฟาง ต้นข้าวโพดที่เก็บฝักออกแล้วมากักตุนไว้ให้โค-กระบือกินในช่วงหน้าแล้งเพราะหากไม่เก็บกักตุนไว้ก็จะประสบปัญหาขาดแคลนอาหารสัตว์ได้ บางรายไม่มีฟางเป็นของตัวเองก็ต้องไปหาซื้อกักตุนไว้เช่นกัน ทำให้ต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น