ประจวบคีรีขันธ์ - สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น และรุนแรงกว่าทุกปี ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยว “น้ำตกป่าละอู” ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่มีชื่อเสียงงของอำเภอหัวหิน พบปริมาณน้ำเหลือน้อยกว่าทุกปีในช่วงเดียวกัน ส่งผลให้ช่วงนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติลดลดลงไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์
วันนี้ (27 มี.ค.) วิกฤตภัยแล้งในปีนี้ยังส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเฉพาะน้ำตกป่าละอู ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเมื่อเดินทางมาพักผ่อนที่อำเภอหัวหินแล้วนักท่องเที่ยวมักเลือกโปรแกรมที่จะเดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติของน้ำตกป่าละอู
นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวยอมรับว่า ปีนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยเนื่องจากเกดฝนทิ้งช่วงมานานหลายเดือน ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางมาพักผ่อน และลงเล่นน้ำในบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1-5 ของน้ำตกป่าละอู ซึ่งยังคงมีน้ำขังอยู่ตามแอ่งขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง โดยนักท่องเที่ยวมักเลือกที่จะลงไปแช่น้ำ และเล่นน้ำกัน โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ส่วนใหญ่จะมีผู้ปกครองพาเด็กๆ มาเล่นน้ำ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวลดลงไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่ผ่านมา
“ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านเก็บค่าธรรมเนียมที่จะเข้าชมน้ำตกป่าละอู แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ช่วงนี้น้ำตกมีปริมาณน้ำน้อย แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็เลือกที่จะเข้ามาผักผ่อนเพราะยังมีความเป็นธรรมชาติ และอากาศภายในบริเวณน้ำตกไม่ร้อน แต่อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีฝนตกลงมาในเดือนหน้าเชื่อว่าน้ำจะลดลงไปอีก ในส่วนของปลาพลวงที่อาศัยอยู่ในน้ำตกคาดว่า ไม่น่าจะได้รับผลกระทบถึงแม้จะมีมากก็ตาม เนื่องจากมีแอ่งน้ำหลายแอ่งด้วยกัน โดยในบริเวณส่วนของน้ำตกป่าละอู ได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว และดูแลในเรื่องของการเฝ้าระวังไฟป่าด้วย เนื่องจากสภาพป่าแห้งแล้งมีเศษใบไม้ และเศษไม้แห้งจำนวนมาก ดังนั้น จึงเฝ้าระวังเป็นพิเศษ”
