นครพนม - ตชด.237 จับสาวแม่ลูกอ่อน พร้อมยึดของกลางยาบ้า 1,500 เม็ด สารภาพผัวเพิ่งถูกจับติดคุกคดีค้ายาบ้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีงานทำจึงต้องหันมาค้ายาบ้าแทนผัวเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มี.ค.) ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวปราบปรามยาเสพติด ตชด.237 กำลังทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.รัชนีวรรณ สมรฤทธิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,586 เม็ด
โดยจับกุม น.ส.รัชนีวรรณ ได้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องต่อยาเสพติด ภายหลังสามีติดคุกคดียาเสพติดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาได้หันมาค้ายาบ้าแทนสามี
จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ขณะผู้ต้องหากลับมาจากไปรับยาบ้าที่ลักลอบนำเข้ามาจาก สปป.ลาว บริเวณถนนเส้นทางระหว่าง ศรีสงคราม-ท่าดอกแก้ว ที่บ้านดอนติ้ว หมู่ 10 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนในถุงขนมพันด้วยเทปกาวสีดำใต้เบาะรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ติดต่อรับยาบ้ามาจากนายทุนชาวลาวที่เป็นเครือข่ายของสามี หลังจากสามีติดคุกคดียาบ้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงหันมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากมีภาระเลี้ยงดูลูกสาววัย 1 ปี 6 เดือน เพราะตนไม่มีงานทำจึงตัดสินใจมาติดต่อค้ายาบ้าแทน ได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000-10,000 บาท
ซึ่งจะใช้วิธีไปรับยาบ้าในช่วงวันที่มีการเปิดตลาดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว ในเขตเทศบาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เนื่องจากมีคนพลุกพล่านยากต่อเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพบ ก่อนนำไปส่งขายให้ลูกค้าที่เป็นเอเยนต์อีกทอดหนึ่งตามนัดหมายทางโทรศัพท์
โดยครั้งนี้จะได้ค่าจ้างประมาณ 5,000 บาท แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี เชื่อว่าจะมีการเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ เนื่องจากมีการติดต่อค้าขายกันมานานกับสามีผู้ต้องหา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป