ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจับมือกองทัพอากาศ เปิดโครงการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2559 จัดเครื่องบินอัลฟาเจ็ต จำนวน 2 เครื่อง ประจำการที่กองบิน 41 เชียงใหม่ เตรียมพร้อมปฏิบัติการบินยิงพลุสารซิลเวอร์ไอโอไดด์ยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บที่จะสร้างความเสียหายพื้นที่การเกษตรตลอดช่วงฤดูร้อน เบื้องต้นเผยช่วง 25-27 มี.ค. 59 นี้มีความเสี่ยง ใช้ระบบเรดาร์ตรวจสอบติดตามสภาพใกล้ชิด
วันนี้ (24 มี.ค. 59) ที่กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก เสกสัณฑ์ ไชยมาตย์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติกิจพิเศษ กรมยุทธการทหารอากาศ และนาวาอากาศเอก ชาตินนท์ สท้านไผท ผู้บังคับการกองบิน 41 ร่วมเปิดโครงการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2559 และประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการฝนหลวง ทั้งนักบิน นักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา และทีมวิจัย เพื่อวางแผนการปฏิบัติการขึ้นยิงพลุสารซิลเวอร์ไอโอไดด์เพื่อสกัดกั้นการเกิดพายุลูกเห็บ ตามโครงการนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และกองทัพอากาศ
ทั้งนี้ โครงการนี้กองทัพอากาศสนับสนุนนักบิน พร้อมเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรือ เครื่องบินอัลฟาเจ็ต (Alpha Jet) จำนวน 2 เครื่อง โดยมีฐานปฏิบัติการที่กองบิน 41 เชียงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งการเกิดลูกเห็บด้วยการใช้พลุสารซิลเวอร์ไอโอไดด์ ซึ่งมีการเตรียมไว้จำนวน 500 นัด สำหรับปฏิบัติการในช่วงฤดูร้อนระหว่างวันที่ 21 มี.ค. 59-20 พ.ค. 59 โดยการขึ้นบินปฏิบัติการจะประเมินผลด้วยระบบเรดาร์ที่ควบคุมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไตตัน ที่มีความแม่นยำในการตรวจวัดสูงสุดในประเทศไทย และติดตั้งไว้ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ หากตรวจพบแนวโน้มและโอกาสกลั่นตัวของเมฆที่จะเกิดเป็นพายุลูกเห็บแล้ว จะมีการบันทึกข้อมูลลงแผนที่และส่งเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการ ครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัดภาคเหนือ
รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเปิดเผยว่า โครงการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บนี้ เป็นโครงการภายใต้พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการศึกษาวิจัยต่อเนื่อง เพื่อยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บที่มักจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เนื่องจากช่วงฤดูร้อนมักจะมีพายุฤดูร้อนและพายุลูกเห็บ สร้างความเสียหายแก่ที่อยู่อาศัยและพืชผลทางการเกษตร ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลสภาพอากาศพบว่าในช่วงวันที่ 25-27 มี.ค. 59 นี้มีโอกาสที่จะเกิดพายุฤดูร้อนและพายุลูกเห็บ ซึ่งขณะนี้ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และกองทัพอากาศได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ครบทุกด้านแล้วในการที่ปฏิบัติการทั้งเครื่องบิน นักบิน และอุปกรณ์ทั้งหมด
รวมทั้งการตรวจวัดสภาพอากาศด้วยระบบเรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าจะเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานเป็นอย่างดี โดยหากมีการขึ้นปฏิบัติการสลายพายุลูกเห็บจะทำให้มีฝนตกลงมาด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อการช่วยสลายและบรรเทาหมอกควันไฟป่าในช่วงนี้ของพื้นที่ภาคเหนือด้วย
